นโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้า Aroma / Aroma Customer Privacy Notice
เรื่อง นโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้า Aroma
บริษัท เค.วี.เอ็น.อิมปอร์ตเอกซ์ปอร์ต (1991) จำกัด, บริษัท ไลอ้อน ทรี-สตาร์ จำกัด (รวมเรียกว่า “บริษัท”) ในฐานะผู้บริหารจัดการร้าน AROMA Shop และผู้จัดจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ AROMA ทั้งหมด มีจุดประสงค์แจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้าฉบับนี้ (“นโยบาย”) ที่กำหนดเกี่ยวกับสิทธิ เงื่อนไขและความจำเป็นของบริษัทในการเก็บ ประมวลผลและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในฐานะลูกค้าที่ติดต่อมายังบริษัท และ/หรือซื้อสินค้า (“ลูกค้า”) เพื่อให้ทราบถึงความจำเป็นและเงื่อนไขในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทต้องดำเนินการ
การยอมรับนโยบาย
นโยบายฉบับนี้ใช้สำหรับการติดต่อ และ/หรือการซื้อขายสินค้าของบริษัทโดยตรง ซึ่งอาจเป็นการติดต่อผ่าน ช่องทางการติดต่อสื่อสาร ทั้งในลักษณะที่เป็น Offline ได้แก่ การซื้อสินค้าหน้าร้าน หรือเป็นการติดต่อซื้อสินค้าโดยตรงกับบริษัท และ Online ซึ่งรวม เว็บไซต์ หรือ Social Media ของบริษัท และช่องทางการจัดจำหน่ายของบุคคลภายนอก (Third Party Marketplace) และ Coffee2U Application ทั้งนี้ เมื่อลูกค้าติดต่อ สมัครบัญชีผู้ใช้งาน (กรณี Coffee2Up Application) และ/หรือซื้อสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัท ทางบริษัทจะถือว่าลูกค้าตกลงและยอมรับนโยบายลฉบับนี้แล้ว
นโยบายฉบับนี้โดยไม่มีผลใช้บังคับกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอกอื่นที่บริษัทไม่มีอำนาจควบคุม แม้จะดำเนินการเชื่อมต่อกับการให้บริการของทางบริษัท ซึ่งสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอกดังกล่าว ลูกค้าต้องศึกษาเกี่ยวกับนโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บุคคลภายนอกดังกล่าวประกาศแยกต่างหาก
ทางบริษัทสงวนสิทธิในการปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และรูปแบบการติดต่อ การขาย การจัดส่งสินค้า รวมถึงการให้บริการต่างๆ ของบริษัทที่ให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ผ่านทางช่องทางการติดต่อของบริษัท
แหล่งข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผล
ทางบริษัทขอแจ้งให้ลูกค้าทราบว่า บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า (1) โดยตรงจากลูกค้า หรือ (2) ผู้ให้บริการภายนอกที่บริษัทได้ว่าจ้างเข้ามาเกี่ยวข้องกับการขายสินค้าและให้บริการของบริษัท (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงผู้ให้บริการ Marketplace) ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก หรือบุคคลอื่นที่อาจแนะนำท่านมายังบริษัท ซึ่งบริษัทจะแจ้งลูกค้าทราบ หรือ (3) เก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติด้วยระบบ เมื่อท่านเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท
ข้อมูลที่มีการประมวลผล
ในการติดต่อประสานงาน การซื้อขายสินค้า การชำระราคา การจัดส่งสินค้าระหว่างบริษัทและท่าน บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าในแต่ละขั้นตอน ดังต่อไปนี้
- 1. สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าหน้าร้าน AROMA ข้อมูลภาพถ่ายใบหน้าของท่านที่บริษัทอาจจัดเก็บได้จากการจัดเก็บภาพใบหน้าด้วยระบบกล้อง CCTV ที่มีการติดตั้งอยู่ภายในพื้นที่ร้านค้า และการจัดเก็บภาพถ่ายจากการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทที่อาจจัดขึ้น ทั้งในลักษณะของการจัดกิจกรรมและการจัดทำการถ่ายทอดสดหรือการบันทึกวีดีโอต่างๆ ภายในพื้นที่ร้านค้า ซึ่งกรณีของการจัดกิจกรรมหรือจัดทำการถ่ายทอดสดดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ให้มีการถ่ายภาพของท่าน ท่านอาจต้องหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่มีการถ่ายทอดสดหรือท่านสามารถแจ้งจุดประ สงค์ปฏิเสธการถ่ายภาพดังกล่าวได้
- 2. ข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารแสดงตนรวมถึงสำเนาเอกสารดังกล่าว เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง เป็นต้น และข้อมูลการชำระเงินค่าสินค้า ซึ่งอาจรวมถึง Payment Slip หรือข้อมูลบัตรเครดิต ที่จะมีการเก็บผ่านระบบ POS เฉพาะกรณีที่ท่านมีจุดประสงค์ออกใบกำกับภาษี
- 3. ข้อมูลสำหรับการจัดส่งสินค้า สำหรับการซื้อสินค้าที่ลูกค้าต้องการให้มีการจัดส่งสินค้า
- 4. สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่านช่องทาง Online ได้แก่ (1) ข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า ได้แก่ ข้อมูลรายละเอียดคำสั่งซื้อ สินค้าที่ซื้อ และจำนวนยอดเงินรวมจากการซื้อสินค้า เป็นต้น (2) ข้อมูลทางเทคนิค (Online Identifier) ของลูกค้า ได้แก่ ข้อมูลแหล่งที่ตั้ง รวมถึง IP address และ/หรือ domain name ของลูกค้า และหน้าเพจอื่นๆ ที่ส่งลูกค้ามายังเว็บไซต์ของบริษัท ประเภทและ Version ของ Browser การตั้งค่า ระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ของลูกค้า หรือ (3) การใช้คุกกี้ (กรณีที่ลูกค้าให้ความยินยอม) ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถศึกษานโยบายคุกกี้ของบริษัทได้เพิ่มเติม
- 5. สำหรับลูกค้าที่ใช้งาน Coffee2Up Application ได้แก่ (1) ข้อมูลการลงทะเบียนเปิดบัญชีผู้ใช้งาน ได้แก่ ชื่อนามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล username password รหัสสาขา (ถ้ามี) (2) ข้อมูลการดำเนินธุรกรรมทั้งหมดที่ลูกค้าดำเนินการผ่าน username ดังกล่าว (Transaction Log) ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ทั้งนี้ เพื่อรับประกันการให้บริการของ Coffee2U ให้ได้เต็มประสิทธิภาพ บริษัทกำหนดสร้าง User ID (“ID”) ให้แก่ผู้ใช้บริการแต่ละท่าน ซึ่ง ID ดังกล่าวจะถูกใช้ เพื่อระบุตัวตนของผู้ใช้บริการแต่ละท่านที่เข้ามาใช้บริการ Coffee2U และ (3) ข้อมูลจุดพิกัดที่อยู่ของลูกค้า ในการแสดงผลร้านกาแฟที่ใกล้ลูกค้า
- 6. สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าโดยตรงจากบริษัทแบบ Offline ซึ่งรวมถึงการซื้อสินค้าแบบ Direct Sales / Wholesales กรณีลูกค้าเป็นนิติบุคคล บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ข้อมูลของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของลูกค้า ซึ่งรวมถึงสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการดังกล่าว และข้อมูลของผู้ติดต่อของบริษัท เป็นต้น
- 7. ข้อมูลอื่นที่ลูกค้าอาจให้แก่บริษัทเกี่ยวกับลักษณะการทำการตลาดที่ลูกค้าต้องการ หรือข้อมูลที่ลูกค้าให้เพื่อการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขาย การสำรวจ การแข่งขัน การชิงรางวัล หรือกิจกรรมลักษณะใดๆ กับบริษัท
- 8. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่ลูกค้าอาจให้ยินยอมหรือนำส่งให้แก่บริษัท เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เช่น ข้อมูลการติดต่อ เพื่อรับการบริการสนับสนุน หรือแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนด เป็นต้น
วัตถุประสงค์และระยะเวลาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามที่ระบุไว้ข้างต้น เพื่อวัตถุประสงค์และระยะเวลา ดังนี้:
- เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา บริษัทต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เพื่อ
- เพื่อการตอบคำถามหรือการจัดการข้อร้องเรียนหรือการให้ความคิดเห็นต่าง ๆ ตามที่ลูกค้าอาจแจ้งมายังบริษัท
- การจัดทำเอกสารการซื้อขาย (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การจัดทำเอกสารทางบัญชี หรือการจัดทำสัญญา (ถ้าเกี่ยวข้อง)
- การปฏิบัติสิทธิหน้าที่ที่บริษัทมี ภายใต้เงื่อนไขการซื้อขายระหว่างบริษัทและลูกค้า ซึ่งรวมถึงการยืนยันคำสั่งซื้อสินค้า ยืนยันลูกค้าผู้ซื้อสินค้า ยืนยันการชำระเงิน การจัดส่งสินค้า
- การให้บริการบัญชีผู้ใช้งาน Coffee2U Application โดยสอดคล้องกับเงื่อนไขการให้บริการของ Coffee2U Application
เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไว้ ตลอดระยะเวลาที่บริษัทยังมีหน้าที่ในการให้บริการจัดส่งหรือส่งมอบสินค้าให้แก่ลูกค้า ภายใต้สัญญาซื้อขาย และ/หรือตลอดระยะเวลาที่ลูกค้ายังคงมีบัญชีผู้ใช้งานของ Coffee2U Application
- เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทต้องดำเนินการ เช่น การจัดทำบัญชีและชำระภาษีของบริษัท โดยเฉพาะกรณีที่ลูกค้าอาจขอใบกำกับภาษีจากบริษัท บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าเพื่อการจัดทำเอกสารดังกล่าว ตลอดระยะเวลาตามกรอบที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
- เพื่อการดำเนินการเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่กระทบสิทธิลูกค้าในฐานะเจ้าของข้อมูลเกินสมควร ได้แก่
- การใช้ข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ ในการปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่บริษัทมีกับลูกค้า รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยง การใช้ข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ปรับปรุงการให้บริการ การออกแบบผลิตภัณฑ์ สินค้า รวมถึงการจัดกลุ่มของลูกค้าเพื่อประโยชน์ในการวางแผนการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ของบริษัท การจัดเก็บข้อมูลความชอบส่วนตัวของลูกค้าเพื่อประโยชน์ในการให้บริการ
- การใช้ภาพถ่ายใบหน้าของลูกค้าที่หน้าร้าน ซึ่งเก็บรวบรวมด้วยระบบ CCTV เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่ร้าน และเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าที่มาใช้บริการภายในพื้นที่ร้าน และที่เก็บจากการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่จัดขึ้นภายในพื้นที่ของร้านค้า
- การใช้ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานของ Coffee2U Application เพื่อการตรวจสอบป้องกันการทุจริตในระบบ หรือการปรับปรุงการให้บริการให้ดีขึ้นในอนาคต รวมถึงการตรวจสอบความถูกต้องของกระบวนการทำงานย้อนหลัง เป็นต้น
- การเก็บข้อมูลเพื่อประโยชน์การปกป้องสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ในกรณีเกิดข้อร้องเรียนหรือการต่อสู้ใดระหว่าง บริษัทและลูกค้า รวมถึงการใช้ข้อมูลเพื่อการฝึกอบรม หรือติดตามการให้บริการของพนักงานของบริษัท
เพื่อวัตถุประสงค์นี้ บริษัทรับประกันจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ โดยจะไม่ดำเนินการใดที่กระทบสิทธิของเจ้าของข้อมูลเกินสมควร
- ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากลูกค้า บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่อวัตถุประสงค์ที่ลูกค้าให้ความยินยอมดังกล่าว เช่น การใช้ข้อมูลเพื่อการติดต่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสินค้าอื่นของบริษัทรวมถึงบริษัทในเครือ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงสินค้าของ AROMA และสินค้าแบรนด์อื่น) ซึ่งตรงกับความสนใจของลูกค้า ให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางการติดต่อต่างๆ
ทั้งนี้ บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว จนกว่าลูกค้าจะยกเลิกความยินยอมที่ลูกค้าได้ให้แก่บริษัท
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โดยหลักการแล้ว บริษัทจะไม่เปิดเผยส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลภายนอก แต่ในกรณีจำเป็นบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้
- ผู้ให้บริการภายนอกที่เกี่ยวข้อง (1) เพื่อให้บริการที่เกี่ยวข้องแก่ทางบริษัทในการขาย และจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้า ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง คู่ค้าของบริษัท ผู้ให้บริการจัดการและตรวจสอบการชำระเงินค่าสินค้า และ (2) เพื่อให้บริการให้คำปรึกษาในการประกอบธุรกิจของบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ที่ปรึกษาต่าง ๆ ของบริษัท ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เฉพาะเท่าที่จำเป็น ตามกรอบเงื่อนไขการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะได้จัดทำและลงนามร่วมกับผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าว
- หน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่หน่วยงานนั้นตามกฎหมาย ตามคำสั่งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น เช่น กรมสรรพากร เป็นต้น
- กรณีที่ลูกค้าให้ความยินยอม บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่ลูกค้าระบุไว้เป็นการเฉพาะ
มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทรับประกันการจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมตามมาตรฐานในอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สิทธิของเจ้าของข้อมูล
บริษัทเคารพสิทธิตามกฎหมายของลูกค้าในฐานะเจ้าของข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในการควบคุมของบริษัท โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิที่มีดังต่อไปนี้ได้ตามกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม (2) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (4) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (5) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (7) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้
ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ หรือติดต่อเพื่อใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของท่านให้ทราบภายในระยะเวลาที่เหมาะสมตามกรอบกฎหมาย กรุณาติดต่อบริษัทที่ PDPA@aromathailand.com ฝ่ายกฏหมาย โทร 02-1598999 ต่อ 632
นโยบายความเป็นส่วนตัวผู้เข้ารับการฝึกอบรม / ACA Customer Privacy Notice
บริษัท เค.วี.เอ็น.อิมปอร์ตเอกซ์ปอร์ต (1991) จำกัด, บริษัท ไลอ้อน ทรี-สตาร์ จำกัด, บริษัท อัลติเมต เบเวอร์เรต โปรดักส์ จำกัด, บริษัท บี ริช คอฟฟี่ จำกัด, บริษัท สยามวอเตอร์คร๊าฟ แอนด์ พาวเวอร์สปอร์ต จำกัด (รวมเรียกว่า “บริษัท”) ในฐานะผู้ให้บริการฝึกอบรมด้านการบริหารจัดการ และการดำเนินธุรกิจกาแฟ มีจุดประสงค์แจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้เข้ารับการฝึกอบรมฉบับนี้ (“นโยบาย”) ที่กำหนดเกี่ยวกับสิทธิ เงื่อนไขและความจำเป็นของบริษัทในการเก็บ ประมวลผลและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในฐานะลูกค้าที่ติดต่อมายังบริษัท และ/หรือเข้าร่วมการฝึกอบรมกับทางบริษัท (“ผู้เข้ารับการฝึกอบรม”) เพื่อให้ทราบถึงความจำเป็นและเงื่อนไขในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทต้องดำเนินการ
การยอมรับนโยบาย
นโยบายฉบับนี้ใช้สำหรับการติดต่อ และ/หรือการเข้าร่วมการฝึกอบรมกับทางบริษัทโดยตรง เท่านั้น ทั้งนี้ เมื่อผู้เข้ารับการฝึก อบรมติดต่อ และ/หรือใช้บริการเข้าฝึกอบรม รวมถึงส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัท ทางบริษัทจะถือว่าผู้เข้ารับการฝึกอบรมตกลงและยอมรับนโยบายลฉบับนี้แล้ว
ทางบริษัทสงวนสิทธิในการปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และรูปแบบการติดต่อ การจัดฝึกอบรม รวมถึงการให้บริการต่างๆ ของบริษัทที่ให้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ผ่านทางช่องทางการติดต่อของบริษัท
ข้อมูลที่มีการประมวลผล
ในการติดต่อประสานงาน การลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมฝึกอบรม บริษัทอาจได้รับข้อมูลของผู้เข้ารับการฝึกอบรมจากท่านผู้สนใจเข้าร่วมอบรมโดยตรง หรืออาจได้รับจากการที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมอาจเข้าทำสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือผู้รับสิทธิเข้าร่วมธุรกิจกับบริษัท รวมถึงการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางการค้าอื่นที่บริษัทอาจมี ทั้งนี้ในกรณีการฝึกอบรมจากเงื่อนไขการเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือผู้รับสิทธินั้น กรณีต้นสังกัดเป็นผู้นำส่งข้อมูลของผู้เข้าร่วมฝึกอบรมรายบุคคลมาให้แก่บริษัท เพื่อรับการฝึกอบรม บริษัทจะถือว่า ต้นสังกัดดังกล่าวมีสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายในการส่งต่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้ารับการฝึกอบรมดังกล่าวให้แก่ บริษัท และบริษัทย่อมสามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ โดยสอดคล้องกับนโยบายฉบับนี้ โดยบริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้ารับการฝึกอบรมทั้งหมด ดังต่อไปนี้
- 1. ข้อมูลของผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่ให้แก่บริษัทในส่วนของเอกสารใบสมัคร ซึ่งได้แก่ ชื่อนามสกุล ข้อมูลการติดต่อ ข้อมูลทักษะ ข้อมูลความสนใจ และอาจรวมถึงข้อมูลการชำระเงินเพื่อเข้าร่วมการฝึกอบรม
- 2. ข้อมูลภาพถ่ายใบหน้าของท่านที่บริษัทอาจจัดเก็บได้จากการจัดเก็บภาพใบหน้าด้วยระบบกล้อง CCTV ที่มีการติดตั้งอยู่ภายในพื้นที่สถาบันฝึกอบรม และการจัดเก็บภาพถ่ายจากการเข้าร่วมฝึกอบรมทั้งในรูปแบบ Online / Offline ซึ่งกรณีของการถ่ายภาพดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ให้มีการถ่ายภาพของท่าน ท่านสามารถแจ้งจุดประสงค์ปฏิเสธการถ่ายภาพดังกล่าวได้
- 3. ข้อมูลการฝึกอบรม รวมถึงการเข้าร่วมฝึกอบรม การวัดผล การทดสอบที่อาจจัดขึ้นตลอดระยะเวลาการจัดฝึกอบรม จนสำเร็จการฝึกอบรม รวมถึงการจัดทำใบประกาศนียบัตร
- 4. ข้อมูลอื่นที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมอาจให้แก่บริษัทเกี่ยวกับลักษณะการทำการตลาดที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมต้องการ หรือข้อมูลที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมให้เพื่อการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขาย การสำรวจ การแข่งขัน การชิงรางวัล หรือกิจกรรมลักษณะใดๆ กับบริษัท
- 5. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมอาจให้ยินยอมหรือนำส่งให้แก่บริษัท เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เช่น ข้อมูลการติดต่อ เพื่อรับการบริการสนับสนุน หรือแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนด เป็นต้น
วัตถุประสงค์และระยะเวลาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้ารับการฝึกอบรมตามที่ระบุไว้ข้างต้น เพื่อวัตถุประสงค์และระยะเวลา ดังนี้:
- เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา บริษัทต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เพื่อการตอบคำถามหรือการจัดการข้อร้องเรียนหรือการให้ความคิดเห็นต่าง ๆ ตามที่ลูกค้าอาจแจ้งมายังบริษัท และเพื่อการปฏิบัติสิทธิหน้าที่ที่บริษัทมี ภายใต้เงื่อนไขการฝึกอบรม ซึ่งรวมถึงการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ฝึกอบรม เพื่อออกแบบการฝึกอบรมให้เหมาสม การยืนยันสิทธิของผู้เข้ารับการฝึกอบรม ยืนยันการชำระเงิน ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครเข้าร่วมฝึกอบรมจนถึงสิ้นสุดสำเร็จการฝึกอบรม โดยบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้ารับการฝึกอบรมไว้ ตลอดระยะเวลาที่บริษัทยังมีหน้าที่ในการให้บริการฝึกอบรมให้แก่ ผู้เข้ารับการฝึกอบรม
- เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทต้องดำเนินการ เช่น การจัดทำบัญชีและชำระภาษีของบริษัท โดยเฉพาะกรณีที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมอาจขอใบกำกับภาษีจากบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เข้ารับการฝึกอบรมเพื่อการจัดทำเอกสารดังกล่าว ตลอดระยะเวลาตามกรอบที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
- เพื่อการดำเนินการเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่กระทบสิทธิผู้เข้ารับการฝึกอบรมในฐานะเจ้าของข้อมูลเกินสมควร ได้แก่
- การใช้ข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ ในการปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่บริษัทมีกับผู้เข้ารับการฝึกอบรม รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยง การใช้ข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ปรับปรุงการให้บริการ การออกแบบหลักสูตร รวมถึงการจัดกลุ่มของผู้เข้ารับการฝึกอบรมเพื่อประโยชน์ในการวางแผนการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ของบริษัท การจัดเก็บข้อมูลความชอบส่วนตัวของผู้เข้ารับการฝึกอบรมเพื่อประโยชน์ในการให้บริการ
- การใช้ภาพถ่ายใบหน้าของผู้เข้ารับการฝึกอบรม ซึ่งเก็บรวบรวมด้วยระบบ CCTV เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่ร้าน และเพื่อความปลอดภัยของผู้เข้ารับการฝึกอบรมอื่น และที่เก็บจากการเข้าร่วมการฝึกอบรม เพื่อประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์การฝึกอบรม
- การเก็บข้อมูลเพื่อประโยชน์การปกป้องสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ในกรณีเกิดข้อร้องเรียนหรือการต่อสู้ใดระหว่าง บริษัทและผู้เข้ารับการฝึกอบรม
เพื่อวัตถุประสงค์นี้ บริษัทรับประกันจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ โดยจะไม่ดำเนินการใดที่กระทบสิทธิของเจ้าของข้อมูลเกินสมควร
- ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากผู้เข้ารับการฝึกอบรม บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้ารับการฝึกอบรม เพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้ให้ความยินยอมดังกล่าว เช่น การใช้ข้อมูลเพื่อการติดต่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสินค้าอื่นของบริษัทรวมถึงบริษัทในเครือ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงสินค้าของ AROMA และสินค้าแบรนด์อื่น) ซึ่งตรงกับความสนใจของผู้เข้ารับการฝึกอบรม ผ่านช่องทางการติดต่อต่างๆ ทั้งนี้ บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้ารับการฝึกอบรมเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว จนกว่าผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะยกเลิกความยินยอมที่ลูกค้าได้ให้แก่บริษัท
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โดยหลักการแล้ว บริษัทจะไม่เปิดเผยส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้ารับการฝึกอบรมให้แก่บุคคลภายนอก แต่ในกรณีจำเป็นบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผย และส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้ารับการฝึกอบรมให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้ (1) ผู้ให้ บริการภายนอกที่เกี่ยวข้องซึ่งให้บริการที่เกี่ยวข้องแก่ทางบริษัท และอาจหมายความรวมถึงต้นสังกัดของท่าน ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเฉพาะเท่าที่จำเป็น ตามกรอบเงื่อนไขการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะได้จัดทำและลงนามร่วมกับผู้ให้บริการภาย นอกดังกล่าว (2) หน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่หน่วยงานนั้นตามกฎหมาย ตามคำสั่งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น และ (3) กรณีที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมให้ความยินยอม บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมระบุไว้เป็นการเฉพาะ
มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทรับประกันการจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมตามมาตรฐานในอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สิทธิของเจ้าของข้อมูล
บริษัทเคารพสิทธิตามกฎหมายของผู้เข้ารับการฝึกอบรม ในฐานะเจ้าของข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในการควบคุมของบริษัท โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิที่มีดังต่อไปนี้ได้ตามกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม (2) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (4) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (5) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (7) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้
ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ หรือติดต่อเพื่อใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของท่านให้ทราบภายในระยะเวลาที่เหมาะสมตามกรอบกฎหมาย กรุณาติดต่อบริษัทที่ PDPA@aromathailand.com ฝ่ายกฏหมาย โทร 02-1598999 ต่อ 632
นโยบายความเป็นส่วนตัวของสมาชิก Aroma Coffee Reward / Aroma Coffee Reward Privacy Notice
เรื่อง นโยบายความเป็นส่วนตัวของสมาชิก Aroma Coffee Reward
บริษัท เค.วี.เอ็น.อิมปอร์ตเอกซ์ปอร์ต (1991) จำกัด, บริษัท ไลอ้อน ทรี-สตาร์ จำกัด, บริษัท อัลติเมท เบเวอร์เรต โปรดักส์ จำกัด, บริษัท บี ริช คอฟฟี่ จำกัด, บริษัท สยามวอเตอร์คร๊าฟ แอนด์ พาวเวอร์สปอร์ต จำกัด (รวมเรียกว่า “บริษัท”) ในฐานะผู้บริหารจัดการระบบสมาชิก Aroma Coffee Reward มีจุดประสงค์แจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวของสมาชิก (“นโยบาย”) เพื่อแจ้งให้ท่านที่สมัครและมีสถานะเป็นสมาชิกของ Aroma Coffee Reward (“สมาชิก”) รับทราบเกี่ยวกับเงื่อนไขการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกที่บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการ
ทั้งนี้ เมื่อสมาชิกตกลงสมัครสมาชิกกับทางบริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ ทางบริษัทจะถือว่า สมาชิกตกลงและยอมรับที่จะปฏิบัติตามนโยบายฉบับนี้แล้ว โดยบริษัทสงวนสิทธิในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ ตามแต่ละระยะเวลาเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องและให้สอดคล้องกับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของสมาชิกที่บริษัทอาจประกาศกำหนด โดยบริษัทจะแจ้งให้สมาชิกทราบถึงการเปลี่ยนแปลงด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ผ่านทางช่องทางการติดต่อสื่อสารของบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผล
บริษัทอาจจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกจากแหล่งข้อมูลดังนี้ (1) ได้รับโดยตรงมาจากสมาชิก ผ่านการลงทะเบียน การสมัครสมาชิก การเชื่อมโยงระบบจากแพลตฟอร์มอื่นของบริษัท (เช่น Coffee2U Application) การติดต่อประสานงานทำธุรกรรมต่างๆ ด้วยเลขรหัสสมาชิก และการติดต่อสื่อสารอื่นระหว่างสมาชิกและบริษัท หรือ (2) ได้รับโดยอ้อมจากบุคคลอื่นที่อาจแนะนำสมาชิกให้มาสมัครสมาชิก หรือบุคคลอื่นที่อาจเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นกรณีที่บริษัทได้รับข้อมูลจากบุคคลอื่น บริษัทจะแจ้งให้สมาชิกทราบ
ทั้งนี้ ทางบริษัทขอแจ้งให้สมาชิกทราบว่า บริษัทจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิก ดังนี้
- 1. ข้อมูลส่วนบุคคลในการสมัครสมาชิก ได้แก่ ชื่อ นามสกุล และที่อยู่ปัจจุบัน วันเดือนปีเกิด และข้อมูลเอกสารแสดงตนของสมาชิก เช่น บัตรประจำตัวประชาชน เป็นต้นและข้อมูลการติดต่อ ได้แก่ เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล รวมถึงข้อมูลอื่นที่อาจเกี่ยวข้องตามที่กำหนดไว้ในแบบฟอร์มใบสมัครสมาชิก
- 2. เลขรหัสสมาชิก ซึ่งบริษัทจะสร้างและกำหนดให้แก่สมาชิกแต่ละบุคคล เพื่อใช้เป็นข้อมูลบ่งเฉพาะของสมาชิกแต่ละบุคคล
- 3. ข้อมูลการทำธุรกรรมกับบริษัทเพื่อการสะสมสิทธิประโยชน์ของสมาชิก รวมถึงข้อมูลการทำรายการกับบริษัทเพื่อรักษาสิทธิสถานะการเป็นสมาชิก และรายละเอียดการใช้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของสมาชิกแต่ละท่าน ตามเงื่อนไขการเป็นสมาชิกที่บริษัทอาจประกาศกำหนดตามแต่ละระยะเวลา และ
- 4. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่สมาชิกอาจส่งให้แก่บริษัทในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมระหว่างสมาชิกภาพ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลทั้งหมดที่สมาชิกต้องใช้ข้อมูลในแบบฟอร์มการขอใช้สิทธิสมาชิกอื่น ๆ
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกตามรายละเอียดที่ระบุไว้ เพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
- เพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นสมาชิก ตามเงื่อนไขการเป็นสมาชิกที่บริษัทกำหนด รวมถึงการรับประกันการให้สิทธิประโยชน์ที่บริษัทอาจมีให้แก่สมาชิก ซึ่งรวมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการยืนยันสิทธิการเป็นสมาชิก การยืนยันตัวตน และการให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แก่สมาชิก โดยสอดคล้องกับเงื่อนไขการเป็นสมาชิก รวมถึงเพื่อการติดต่อสื่อสารให้ข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์สมาชิกต่าง ๆ ที่บริษัทอาจประกาศกำหนด
- เพื่อการสร้างและปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่บริษัทมีกับสมาชิก โดยไม่กระทบสิทธิสมาชิกในฐานะเจ้าของข้อมูลมากเกินสมควร ซึ่งอาจรวมถึงการติดต่อสอบถามความพึงพอใจในการเป็นสมาชิก การสอบถามการใช้สิทธิประโยชน์ของสมาชิก การจัดการข้อร้องเรียนหรือการให้ความคิดเห็นต่าง ๆ การอำนวยความสะดวกแก่สมาชิกในกรณีกลับมาสมัครสมาชิกอีกครั้งภายหลังการยกเลิก รวมถึงการดำเนินกระบวนการตรวจสอบภายในของบริษัท และ
- ในกรณีที่สมาชิกให้ความยินยอมเป็นกรณีเฉพาะ บริษัทจะใช้ข้อมูลการติดต่อของสมาชิก ในการติดต่อประชาสัมพันธ์ ข่าวสารอื่น ๆ นอกเหนือจากข่าวสารประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสิทธิประโยชน์ของสมาชิก
ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลและเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกเพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ ที่ระบุไว้ข้างต้นตลอดระยะเวลาสมาชิกภาพของบริษัท และบริษัทสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลของสมาชิกของท่านไว้ต่อเนื่อง 1 ปีปฏิทินภาย หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาในการเป็นสมาชิกของท่าน และสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่สมาชิกให้ความยินยอม บริษัทจะเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าสมาชิกจะถอนความยินยอม
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โดยหลักการแล้ว บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิก ให้แก่บุคคลภายนอก แต่ในกรณีจำเป็นบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิก ให้แก่ (i) ผู้ให้บริการภายนอก ที่ได้รับการว่าจ้างโดยบริษัทเพื่อให้สิทธิประโยชน์สมาชิก หรือเพื่อการดำเนินธุรกิจทั่วไปของบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ตัวแทนจำหน่ายสินค้าของ AROMA ที่ท่านไปใช้บริการและต้องการสะสมหรือแลกสิทธิคะแนนสมาชิก และ (ii) หน่วยงานราชการต่าง ๆ ซึ่งบริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามคำสั่งของหน่วยงานนั้น ๆ ในการเปิดเผยข้อมูล ทั้งนี้ ในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวทั้งหมด บริษัทจะดำเนิน การเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและการใช้สิทธิความเป็นเจ้าของข้อมูลของสมาชิก
บริษัทจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของสมาชิกที่บริษัทได้รับ โดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ โดยบริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะเพื่อความเหมาะสมตามมาตรฐานในอุตสาหกรรมและโดยสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และบริษัทเคารพสิทธิตามกฎหมายของสมาชิกในฐานะเจ้าของข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งสมาชิกสามารถขอใช้สิทธิที่มีดังต่อไปนี้ได้ ตามเงื่อนไขกำหนดสิทธิที่ระบุไว้ในกฎหมาย (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม (2) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (4) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (5) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (7) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้
หากสมาชิกต้องการติดต่อสอบถามเกี่ยวกับนโยบายหรือต้องการดำเนินการขอใช้สิทธิของตน สามารถติดต่อบริษัทได้ และบริษัทจะแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของท่านให้ทราบภายในกรอบระยะเวลาที่เหมาะสมตามกฎหมาย ทั้งนี้ สามารถติดต่อบริษัทมาได้ที่ [ฝ่ายกฏหมาย โทร 02–1598999 ต่อ 632] หรือ อีเมล [PDPA@aromathailand.com]
นโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้าร้านอินทนิล / Aroma-Inthanin Customer Privacy Notice
เรื่อง นโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้าร้านอินทนิล
บริษัท บี ริช คอฟฟี่ จำกัด (เรียกว่า “บริษัท”) ในฐานะผู้บริหารจัดการร้านอินทนิล มีจุดประสงค์แจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้าฉบับนี้ (“นโยบาย”) ที่กำหนดเกี่ยวกับสิทธิ เงื่อนไขและความจำเป็นของบริษัทในการเก็บ ประมวลผลและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในฐานะลูกค้าที่ติดต่อมายังบริษัท และ/หรือซื้อสินค้าอินทนิล (“ลูกค้า”) เพื่อให้ทราบถึงความจำเป็นและเงื่อนไขในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทต้องดำเนินการ
นโยบายฉบับนี้ใช้สำหรับการติดต่อ และ/หรือการซื้อขายสินค้าอินทนิลโดยตรง ไม่มีผลใช้บังคับกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอกอื่นที่บริษัทไม่มีอำนาจควบคุม (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงบริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ซี่งเป็นเจ้าของแบรนด์อินทนิล) ซึ่งสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอกดังกล่าว ลูกค้าต้องศึกษาเกี่ยวกับนโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บุคคลภายนอกดังกล่าวประกาศแยกต่างหาก
ทางบริษัทสงวนสิทธิในการปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และรูปแบบการติดต่อ การขาย รวมถึงการให้บริการต่างๆ ของบริษัทที่ให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ผ่านทางช่องทางการติดต่อของบริษัท
ข้อมูลที่มีการประมวลผล
ในการติดต่อประสานงานและการใช้บริการซื้อสินค้าที่ร้านอินทนิล บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ดังต่อไปนี้
- 1. ข้อมูลภาพถ่ายใบหน้าของท่านที่บริษัทอาจจัดเก็บได้จากการจัดเก็บภาพใบหน้าด้วยระบบกล้อง CCTV ที่มีการติดตั้งอยู่ภายในพื้นที่ร้านค้า และการจัดเก็บภาพถ่ายจากการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทที่อาจจัดขึ้น ทั้งในลักษณะของการจัดกิจกรรมและการจัดทำการถ่ายทอดสดหรือการบันทึกวีดีโอต่างๆ ภายในพื้นที่ร้านค้า ซึ่งกรณีของการจัดกิจกรรมหรือจัดทำการถ่ายทอดสดดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ให้มีการถ่ายภาพของท่าน ท่านอาจต้องหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่มีการถ่ายทอดสดหรือท่านสามารถแจ้งจุดประสงค์ปฏิเสธการถ่ายภาพดังกล่าวได้
- 2. ข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารแสดงตนรวมถึงสำเนาเอกสารดังกล่าว เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง เป็นต้น และข้อมูลการชำระเงินค่าสินค้า ซึ่งอาจรวมถึง Payment Slip หรือข้อมูลบัตรเครดิต ที่จะมีการเก็บผ่านระบบ POS เฉพาะกรณีที่ท่านมีจุดประสงค์ออกใบกำกับภาษี
- 3. ข้อมูลการใช้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สายที่หน้าร้านอินทนิล (หากมี)
- 4. ข้อมูลอื่นที่ลูกค้าอาจให้แก่บริษัทเกี่ยวกับลักษณะการทำการตลาดที่ลูกค้าต้องการ หรือข้อมูลที่ลูกค้าให้เพื่อการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขาย การสำรวจ การแข่งขัน การชิงรางวัล หรือกิจกรรมลักษณะใดๆ กับบริษัท
- 5. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่ลูกค้าอาจให้ยินยอมหรือนำส่งให้แก่บริษัท เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เช่น ข้อมูลการติดต่อ เพื่อรับการบริการสนับสนุน หรือแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนด เป็นต้น
วัตถุประสงค์และระยะเวลาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามที่ระบุไว้ข้างต้น เพื่อวัตถุประสงค์และระยะเวลา ดังนี้:
- เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา บริษัทต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เพื่อการตอบคำถามหรือการจัดการข้อร้องเรียนหรือการให้ความคิดเห็นต่าง ๆ ตามที่ลูกค้าอาจแจ้งมายังบริษัท และให้บริการอื่นที่อาจเกี่ยวข้อง เพื่อวัตถุประ สงค์ดังกล่าวนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไว้ ตลอดระยะเวลาที่บริษัทยังมีหน้าที่ในการให้บริการแก่ลูกค้า
- เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทต้องดำเนินการ เช่น การจัดทำบัญชีและชำระภาษีของบริษัท โดยเฉพาะกรณีที่ลูกค้าอาจขอใบกำกับภาษีจากบริษัท การเก็บข้อมูลประวัติการใช้อินเตอร์เน็ตไร้สาย บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าเพื่อการจัดทำเอกสารดังกล่าว ตลอดระยะเวลาตามกรอบที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
- เพื่อการดำเนินการเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่กระทบสิทธิลูกค้าในฐานะเจ้าของข้อมูลเกินสมควร ได้แก่การใช้ภาพถ่ายใบหน้าของลูกค้าที่หน้าร้าน ซึ่งเก็บรวบรวมด้วยระบบ CCTV เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่ร้าน และเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าที่มาใช้บริการภายในพื้นที่ร้าน และที่เก็บจากการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่จัดขึ้นภายในพื้นที่ของร้านค้า
- ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากลูกค้า บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่อวัตถุประสงค์ที่ลูกค้าให้ความยินยอมดังกล่าว เช่น การใช้ข้อมูลเพื่อการติดต่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสินค้าอื่นของบริษัทรวมถึงบริษัทในเครือ ซึ่งตรงกับความสนใจของลูกค้า ให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางการติดต่อต่างๆ โดยบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว จนกว่าลูกค้าจะยกเลิกความยินยอมที่ลูกค้าได้ให้แก่บริษัท
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โดยหลักการแล้ว บริษัทจะไม่เปิดเผยส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลภายนอก แต่ในกรณีจำเป็นบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้ (1) ผู้ให้บริการภายนอกที่เกี่ยวข้องซึ่งให้บริการที่เกี่ยวข้องแก่ทางบริษัท ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเฉพาะเท่าที่จำเป็น ตามกรอบเงื่อนไขการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะได้จัดทำและลงนามร่วมกับผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าว (2) หน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่หน่วยงานนั้นตามกฎหมาย ตามคำสั่งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น และ (3) กรณีที่ลูกค้าให้ความยินยอม บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่ลูกค้าระบุไว้เป็นการเฉพาะ
มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทรับประกันการจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมตามมาตรฐานในอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สิทธิของเจ้าของข้อมูล
บริษัทเคารพสิทธิตามกฎหมายของลูกค้าในฐานะเจ้าของข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในการควบคุมของบริษัท โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิที่มีดังต่อไปนี้ได้ตามกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม (2) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (4) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (5) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (7) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้
ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ หรือติดต่อเพื่อใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของท่านให้ทราบภายในระยะเวลาที่เหมาะสมตามกรอบกฎหมาย กรุณาติดต่อบริษัทที่ PDPA@aromathailand.com ฝ่ายกฏหมาย โทร 02-1598999
นโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลผู้ร่วมธุรกิจชาวดอยคอฟฟี่ / Chao Doi Franchisee Privacy Notice
เรื่อง นโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลผู้ร่วมธุรกิจชาวดอยคอฟฟี่
บริษัท เค.วี.เอ็น.อิมปอร์ตเอกซ์ปอร์ต (1991) จำกัด (“บริษัท”) มีจุดประสงค์แจ้งนโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลผู้ร่วมธุรกิจชาวดอยคอฟฟี่ฉบับนี้ (“นโยบาย”) ที่กำหนดเกี่ยวกับสิทธิ เงื่อนไขและความจำเป็นของบริษัทในการเก็บ ประมวลผลและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในฐานะผู้สนใจสมัครและผู้เป็นผู้ซื้อสิทธิ์แบรนด์ชาวดอย (“Franchisee”) เพื่อให้ทราบเกี่ยวกับเงื่อนไขการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกที่บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการ
ทั้งนี้ เมื่อ Franchisee ตกลงสมัครร่วมธุรกิจกับทางบริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ ทางบริษัทจะถือว่า Franchisee ตกลงและยอมรับที่จะปฏิบัติตามนโยบายฉบับนี้แล้ว โดยบริษัทสงวนสิทธิในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ ตามแต่ละระยะเวลาเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องและให้สอดคล้องกับเงื่อนไขการให้สิทธิแบรนด์ชาวดอย ที่บริษัทอาจประกาศกำหนด โดยบริษัทจะแจ้งให้ Franchisee ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ผ่านทางช่องทางการติดต่อสื่อสารของบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผล
ระหว่างกระบวนการติดต่อประสานงาน การสมัครเป็นผู้ร่วมธุรกิจ (Franchise) และระหว่างระยะเวลาการให้สิทธิดังกล่าว บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ประมวลผล และใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
- ข้อมูลในใบสมัครขอรับสิทธิ์ ได้แก่ ชื่อ นามสกุล สถานภาพ หมายเลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ปัจจุบันและที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ข้อมูลเพื่อการประเมินคุณสมบัติตามที่แสดงไว้ในเอกสารใบสมัครธุรกิจชาวดอย ได้แก่ ลักษณะที่อยู่ ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ประวัติการดำเนินธุรกิจ ข้อมูลทางการเงิน ประสบการณ์ และข้อมูลเกี่ยวกับแผนการเปิดร้าน รวมถึงข้อมูลอื่น ภายใต้ใบสมัคร ที่บริษัทกำหนด
- ข้อมูลการดำเนินการ การสั่งซื้อสินค้า การชำระค่า Franchise การติดต่อ การทำธุรกรรมทั้งหมด ที่บริษัทดำเนินการกับ Franchisee ดังกล่าว ตลอดระยะเวลาการจัดทำสัญญา
- กรณี Franchisee ที่เป็นนิติบุคคล อาจรวมถึงข้อมูลของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม และ/หรือตัวแทนผู้ได้รับมอบหมาย หรือมอบอำนาจจาก Franchisee ในการติดต่อประสานงานกับบริษัทในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประสานงานในฐานะตัวแทนนิติบุคคลดังกล่าว (“ตัวแทน”) ซึ่งเมื่อ Franchisee นำส่งข้อมูลของตัวแทนของตนมายังบริษัท บริษัทจะถือว่า Franchisee รับประกันสิทธิโดยสมบูรณ์ในการส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตัวแทนดังกล่าว ให้แก่บริษัทโดยสมบูรณ์แล้ว และบริษัทย่อมมีสิทธิในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตัวแทนเหล่านั้นได้ภายใต้นโยบายฉบับนี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าว ได้แก่ ชื่อนามสกุล ข้อมูลการติดต่อ และสำเนาเอกสารแสดงตนของตัวแทนดังกล่าว
- ข้อมูลชื่อนามสกุล และข้อมูลการติดต่อของพนักงานของ Franchisee ที่จะได้รับการฝึกอบรมจากทางบริษัท ซึ่งในกรณีการส่งข้อมูลของพนักงานดังกล่าวนี้ Franchisee ต้องรับประกันสิทธิในการส่งต่อข้อมูลดังกล่าวให้แก่ บริษัท และรับทราบว่า บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวในฐานะเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ให้แก่ Franchisee ดังนั้น Franchisee จะมีหน้าที่โดยตรงในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลในการแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานดังกล่าวที่บริษัทมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามคำสั่งของท่าน
- ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่ Franchisee อาจส่งให้แก่บริษัทในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมระหว่างสัญญาการร่วมธุรกิจและให้สิทธิ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลทั้งหมดที่สมาชิกต้องใช้ข้อมูลในแบบฟอร์มการขอใช้สิทธิ หรือแบบฟอร์มการติดต่อสื่อสารอื่น ๆ
วัตถุประสงค์และระยะเวลาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะได้รับการเก็บ รวบรวม ใช้และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคลของ Franchisee ตามที่ระบุไว้ เพื่อวัตถุประสงค์และระยะเวลา ดังนี้ :
- เพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติการ Franchisee ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนดก่อนการตกลงร่วมธุรกิจระหว่างบริษัทและ Franchisee ทั้งนี้บริษัทจะพิจารณาคุณสมบัติดังกล่าวอย่างเหมาะสม และหาก Franchisee ไม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ร่วมธุรกิจ บริษัทสงวนสิทธิในการเก็บข้อมูลของท่านไว้ต่อเนื่องอีก 1 ปีปฏิทินเพื่ออำนวยความสะดวกในกรณีที่ Franchisee อาจกลับมาสมัครร่วมซื้อสิทธิ์อีกครั้ง
- เพื่อการจัดทำเอกสารสัญญาและการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา โดยเฉพาะเพื่อ (1) การติดต่อสื่อสารประสานงานระหว่างกระบวนการตกลงเจรจาธุรกรรมการทำสัญญาระหว่างกัน ติดตามการขาย การให้บริการสนับสนุนอื่นๆ รวมถึงการสนับสนุนและส่งเสริมการขายของ Franchisee และ (2) การปฏิบัติสิทธิและหน้าที่ของบริษัทภายใต้สัญญาให้สิทธิ์ที่ลงนามกับ Franchisee รวมถึงสัญญาการซื้อขายและการให้บริการสนับสนุนอื่น ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันระหว่างบริษัทและ Franchisee
ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของตัวแทนของ Franchisee ไว้เพื่อวัตถุประสงค์นี้ ตลอดระยะเวลาที่บริษัทยังมีหน้าที่ภายใต้สัญญาให้สิทธิ์และสัญญาซื้อขาย
- เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทต้องดำเนินการ เช่น การจัดทำบัญชีและชำระภาษีของบริษัท ตลอดระยะเวลาตามกรอบที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
- เพื่อการใช้สิทธิประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท โดยไม่กระทบสิทธิตัวแทนเกินสมควร ได้แก่ การประมวลผลข้อมูลเพื่อ (1) การวางแผนการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและ Franchisee (2) การพิจารณาทบทวนการแก้ไขข้อร้องเรียนต่าง ๆ(3) การจัดทำรายงานการติดตามผลการประกอบการของ Franchisee นั้น (4) การปกป้องสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ในการเรียกร้องหรือต่อสู้ข้อเรียกร้องใดที่บริษัท และ Franchisee อาจมีข้อพิพาทระหว่างกัน เป็นระยะเวลา 1 ปีปฏิทินหลังจากการยกเลิกหรือสิ้นสุดสัญญาให้สิทธิแบรนด์ชาวดอย
การเปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
โดยหลักการแล้ว บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตัวแทนของ Franchisee ให้แก่บุคคลภายนอก แต่ในกรณีจำเป็นบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของ Franchisee ให้แก่ (i) ผู้ให้บริการภายนอก ที่ได้รับการว่าจ้างโดยบริษัทเพื่อการปฏิบัติสิทธิและหน้าที่ของบริษัทที่อาจมีกับ Franchisee หรือเพื่อการดำเนินธุรกิจทั่วไปของบริษัท รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ช่างผู้รับเหมาก่อสร้างในการก่อสร้างร้านชาวดอย เพื่อให้มีการติดต่อสื่อสารและตกลงกันโดยตรงระหว่าง Franchisee และผู้รับเหมาดังกล่าวด้วยการแนะนำของบริษัท (ii) คู่ค้าของบริษัท ในกรณีที่ Franchisee ประสงค์ที่จะเข้าร่วมการจัดการส่งเสริมการตลาด เช่น การจัด Co–Promotion หรือ Campaign และ (iii) หน่วยงานราชการต่าง ๆ ซึ่งบริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามคำสั่งของหน่วยงานนั้น ๆ ในการเปิดเผยข้อมูล ทั้งนี้ ในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวทั้งหมด บริษัทจะดำเนิน การเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทรับประกันจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมตามมาตรฐานในอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สิทธิของเจ้าของข้อมูล
บริษัทเคารพสิทธิตามกฎหมายของ Franchisee ในฐานะเจ้าของข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในการควบคุมของบริษัท โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิที่มีดังต่อไปนี้ได้ตามกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม (2) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (4) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (5) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (7) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้
Franchisee สามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ หรือติดต่อเพื่อใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของตัวแทนของ ท่านได้ โดยบริษัทจะแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของท่านให้ทราบภายในระยะเวลาที่เหมาะสมตามกรอบกฎหมาย กรุณาติดต่อบริษัทที่ PDPA@aromathailand.com ฝ่ายกฏหมาย โทร 02-1598999 ต่อ 632
นโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ชาวดอย / Chaodoi Customer Privacy Notice
เรื่อง นโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ชาวดอย
บริษัท เค.วี.เอ็น.อิมปอร์ตเอกซ์ปอร์ต (1991) จำกัด (เรียกว่า “บริษัท”) ในฐานะผู้บริหารจัดการร้านชาวดอย มีจุดประสงค์แจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้าฉบับนี้ (“นโยบาย”) ที่กำหนดเกี่ยวกับสิทธิ เงื่อนไขและความจำเป็นของบริษัทในการเก็บ ประมวลผลและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในฐานะลูกค้าที่ติดต่อมายังบริษัท และ/หรือซื้อสินค้าชาวดอย (“ลูกค้า”) เพื่อให้ทราบถึงความจำเป็นและเงื่อนไขในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทต้องดำเนินการ
นโยบายฉบับนี้ใช้สำหรับการติดต่อ และ/หรือการซื้อขายสินค้าชาวดอยจากบริษัทโดยตรง ไม่มีผลใช้บังคับกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอกอื่นที่บริษัทไม่มีอำนาจควบคุม (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง Chao Doi Franchisee ซี่งเป็นเจ้าของและผู้บริหารร้านชาวดอยอื่น) แม้จะดำเนินการเชื่อมต่อหรือภายใต้ชื่อแบรนด์ทางบริษัท ซึ่งสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอกดังกล่าว ลูกค้าต้องศึกษาเกี่ยวกับนโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บุคคลภายนอกดังกล่าวประกาศแยกต่างหาก
ทางบริษัทสงวนสิทธิในการปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และรูปแบบการติดต่อ การขาย รวมถึงการให้บริการต่างๆ ของบริษัทที่ให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ผ่านทางช่องทางการติดต่อของบริษัท
ข้อมูลที่มีการประมวลผล
ในการติดต่อประสานงานและการใช้บริการซื้อสินค้าที่ร้านชาวดอย บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ดังต่อไปนี้
- 1. ข้อมูลภาพถ่ายใบหน้าของท่านที่บริษัทอาจจัดเก็บได้จากการจัดเก็บภาพใบหน้าด้วยระบบกล้อง CCTV ที่มีการติดตั้งอยู่ภายในพื้นที่ร้านค้า และการจัดเก็บภาพถ่ายจากการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทที่อาจจัดขึ้น ทั้งในลักษณะของการจัดกิจกรรมและการจัดทำการถ่ายทอดสดหรือการบันทึกวีดีโอต่างๆ ภายในพื้นที่ร้านค้า ซึ่งกรณีของการจัดกิจกรรมหรือจัดทำการถ่ายทอดสดดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ให้มีการถ่ายภาพของท่าน ท่านอาจต้องหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่มีการถ่ายทอดสดหรือท่านสามารถแจ้งจุดประสงค์ปฏิเสธการถ่ายภาพดังกล่าวได้
- 2. ข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารแสดงตนรวมถึงสำเนาเอกสารดังกล่าว เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง เป็นต้น และข้อมูลการชำระเงินค่าสินค้า ซึ่งอาจรวมถึง Payment Slip หรือข้อมูลบัตรเครดิต ที่จะมีการเก็บผ่านระบบ POS เฉพาะกรณีที่ท่านมีจุดประสงค์ออกใบกำกับภาษี
- 3. ข้อมูลการใช้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สายที่หน้าร้านชาวดอย
- 4. ข้อมูลอื่นที่ลูกค้าอาจให้แก่บริษัทเกี่ยวกับลักษณะการทำการตลาดที่ลูกค้าต้องการ หรือข้อมูลที่ลูกค้าให้เพื่อการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขาย การสำรวจ การแข่งขัน การชิงรางวัล หรือกิจกรรมลักษณะใดๆ กับบริษัท
- 5. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่ลูกค้าอาจให้ยินยอมหรือนำส่งให้แก่บริษัท เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เช่น ข้อมูลการติดต่อ เพื่อรับการบริการสนับสนุน หรือแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนด เป็นต้น
วัตถุประสงค์และระยะเวลาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามที่ระบุไว้ข้างต้น เพื่อวัตถุประสงค์และระยะเวลา ดังนี้:
- เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา บริษัทต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เพื่อการตอบคำถามหรือการจัดการข้อร้องเรียนหรือการให้ความคิดเห็นต่าง ๆ ตามที่ลูกค้าอาจแจ้งมายังบริษัท และให้บริการอื่นที่อาจเกี่ยวข้อง เพื่อวัตถุประ สงค์ดังกล่าวนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไว้ ตลอดระยะเวลาที่บริษัทยังมีหน้าที่ในการให้บริการแก่ลูกค้า
- เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทต้องดำเนินการ เช่น การจัดทำบัญชีและชำระภาษีของบริษัท โดยเฉพาะกรณีที่ลูกค้าอาจขอใบกำกับภาษีจากบริษัท การเก็บข้อมูลประวัติการใช้อินเตอร์เน็ตไร้สาย บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าเพื่อการจัดทำเอกสารดังกล่าว ตลอดระยะเวลาตามกรอบที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
- เพื่อการดำเนินการเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่กระทบสิทธิลูกค้าในฐานะเจ้าของข้อมูลเกินสมควร ได้แก่การใช้ภาพถ่ายใบหน้าของลูกค้าที่หน้าร้าน ซึ่งเก็บรวบรวมด้วยระบบ CCTV เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่ร้าน และเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าที่มาใช้บริการภายในพื้นที่ร้าน และที่เก็บจากการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่จัดขึ้นภายในพื้นที่ของร้านค้า
- ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากลูกค้า บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่อวัตถุประสงค์ที่ลูกค้าให้ความยินยอมดังกล่าว เช่น การใช้ข้อมูลเพื่อการติดต่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสินค้าอื่นของบริษัทรวมถึงบริษัทในเครือ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงสินค้าของชาวดอย และสินค้าแบรนด์อื่น) ซึ่งตรงกับความสนใจของลูกค้า ให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางการติดต่อต่างๆ โดยบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว จนกว่าลูกค้าจะยกเลิกความยินยอมที่ลูกค้าได้ให้แก่บริษัท
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โดยหลักการแล้ว บริษัทจะไม่เปิดเผยส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลภายนอก แต่ในกรณีจำเป็นบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้ (1) ผู้ให้บริการภายนอกที่เกี่ยวข้องซึ่งให้บริการที่เกี่ยวข้องแก่ทางบริษัท รวมถึงให้แก่ พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท เพื่อประโยชน์ในการใช้สิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าอาจมีใน Campaign พิเศษต่าง ๆ ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเฉพาะเท่าที่จำเป็น ตามกรอบเงื่อนไขการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะได้จัดทำและลงนามร่วมกับผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าว (2) หน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่หน่วยงานนั้นตามกฎหมาย ตามคำสั่งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น และ (3) กรณีที่ลูกค้าให้ความยินยอม บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่ลูกค้าระบุไว้เป็นการเฉพาะ
มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทรับประกันการจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมตามมาตรฐานในอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สิทธิของเจ้าของข้อมูล
บริษัทเคารพสิทธิตามกฎหมายของลูกค้าในฐานะเจ้าของข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในการควบคุมของบริษัท โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิที่มีดังต่อไปนี้ได้ตามกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม (2) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (4) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (5) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (7) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้
ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ หรือติดต่อเพื่อใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของท่านให้ทราบภายในระยะเวลาที่เหมาะสมตามกรอบกฎหมาย กรุณาติดต่อบริษัทที่ [PDPA@aromathailand.com ฝ่ายกฏหมาย โทร 02-1598999 ต่อ 632 ]
นโยบายความเป็นส่วนตัวของสมาชิกชาวดอย / Chaodoi Member Customer Privacy Notice
เรื่อง นโยบายความเป็นส่วนตัวของสมาชิกชาวดอย
บริษัท เค.วี.เอ็น.อิมปอร์ตเอกซ์ปอร์ต (1991) จำกัด (“บริษัท”) ในฐานะผู้บริหารจัดการระบบสมาชิก ชาวดอย มีจุดประสงค์แจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวของสมาชิก (“นโยบาย”) เพื่อแจ้งให้ท่านที่สมัคร และมีสถานะเป็นสมาชิกของ ชาวดอย (“สมาชิก”) รับทราบเกี่ยวกับเงื่อนไขการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกที่บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการ
ทั้งนี้ เมื่อสมาชิกตกลงสมัครสมาชิกกับทางบริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ ทางบริษัทจะถือว่า สมาชิกตกลงและยอมรับที่จะปฏิบัติตามนโยบายฉบับนี้แล้ว โดยบริษัทสงวนสิทธิในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ ตามแต่ละระยะเวลาเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องและให้สอดคล้องกับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของสมาชิกที่บริษัทอาจประกาศกำหนด โดยบริษัทจะแจ้งให้สมาชิกทราบถึงการเปลี่ยนแปลงด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ผ่านทางช่องทางการติดต่อสื่อสารของบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผล
ระหว่างกระบวนการสมัครและสิทธิประโยชน์สมาชิกชาวดอย ทางบริษัทขอแจ้งให้สมาชิกทราบว่า บริษัทจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิก ดังนี้
- 1. ข้อมูลส่วนบุคคลในการสมัครสมาชิก ได้แก่ ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และวันเดือนปีเกิด รวมถึงข้อมูลอื่นที่อาจเกี่ยวข้องตามที่กำหนดไว้ในแบบฟอร์มใบสมัครสมาชิก
- 2. เลขรหัสสมาชิก ซึ่งบริษัทจะสร้างและกำหนดให้แก่สมาชิกแต่ละบุคคล เพื่อใช้เป็นข้อมูลบ่งเฉพาะของสมาชิกแต่ละบุคคล
- 3. ข้อมูลการทำธุรกรรมกับบริษัทเพื่อการสะสมสิทธิประโยชน์ของสมาชิก รวมถึงข้อมูลการทำรายการกับบริษัทเพื่อรักษาสิทธิสถานะการเป็นสมาชิก และรายละเอียดการใช้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของสมาชิกแต่ละท่าน ตามเงื่อนไขการเป็นสมาชิกที่บริษัทอาจประกาศกำหนดตามแต่ละระยะเวลา และ
- 4. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่สมาชิกอาจส่งให้แก่บริษัทในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมระหว่างสมาชิกภาพ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลทั้งหมดที่สมาชิกต้องใช้ข้อมูลในแบบฟอร์มการขอใช้สิทธิสมาชิกอื่น ๆ
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกตามรายละเอียดที่ระบุไว้ เพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
- เพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นสมาชิก ตามเงื่อนไขการเป็นสมาชิกที่บริษัทกำหนด รวมถึงการรับประกันการให้สิทธิประโยชน์ที่บริษัทอาจมีให้แก่สมาชิก ซึ่งรวมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการยืนยันสิทธิการเป็นสมาชิก การยืนยันตัวตน และการให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แก่สมาชิก โดยสอดคล้องกับเงื่อนไขการเป็นสมาชิก รวมถึงเพื่อการติดต่อสื่อสารให้ข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์สมาชิกต่าง ๆ ที่บริษัทอาจประกาศกำหนด
- เพื่อการสร้างและปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่บริษัทมีกับสมาชิก โดยไม่กระทบสิทธิสมาชิกในฐานะเจ้าของข้อมูลมากเกินสมควร ซึ่งอาจรวมถึงการติดต่อสอบถามความพึงพอใจในการเป็นสมาชิก การสอบถามการใช้สิทธิประโยชน์ของสมาชิก การจัดการข้อร้องเรียนหรือการให้ความคิดเห็นต่าง ๆ การอำนวยความสะดวกแก่สมาชิกในกรณีกลับมาสมัครสมาชิกอีกครั้งภายหลังการยกเลิก รวมถึงการดำเนินกระบวนการตรวจสอบภายในของบริษัท และ
- ในกรณีที่สมาชิกให้ความยินยอมเป็นกรณีเฉพาะ บริษัทจะใช้ข้อมูลการติดต่อของสมาชิก ในการติดต่อประชาสัมพันธ์ ข่าวสารอื่น ๆ นอกเหนือจากข่าวสารประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสิทธิประโยชน์ของสมาชิก
ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลและเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกเพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ ที่ระบุไว้ข้างต้นตลอดระยะเวลาสมาชิกภาพของบริษัท และบริษัทสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลของสมาชิกของท่านไว้ต่อเนื่อง 1 ปีปฏิทินภาย หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาในการเป็นสมาชิกของท่าน และสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่สมาชิกให้ความยินยอม บริษัทจะเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าสมาชิกจะถอนความยินยอม
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โดยหลักการแล้ว บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิก ให้แก่บุคคลภายนอก แต่ในกรณีจำเป็นบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิก ให้แก่ (i) ผู้ให้บริการภายนอก ที่ได้รับการว่าจ้างโดยบริษัทเพื่อให้สิทธิประโยชน์สมาชิก หรือเพื่อการดำเนินธุรกิจทั่วไปของบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผู้รับสิทธิ์ร่วมธุรกิจชาวดอยจากบริษัท (Chao Doi Franchisee) ซึ่งอาจรวมถึงผู้รับสิทธิ์ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และประเทศอื่น ทั้งนี้หมายความรวมเฉพาะ ผู้รับสิทธิ์ร่วมธุรกิจที่ท่านไปใช้บริการและต้องการสะสมหรือแลกสิทธิคะแนนสมาชิกเท่านั้น และ (ii) หน่วยงานราชการต่าง ๆ ซึ่งบริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามคำสั่งของหน่วยงานนั้น ๆ ในการเปิดเผยข้อมูล ทั้งนี้ ในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวทั้งหมด บริษัทจะดำเนิน การเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและการใช้สิทธิความเป็นเจ้าของข้อมูลของสมาชิก
บริษัทจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของสมาชิกที่บริษัทได้รับ โดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ โดยบริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะเพื่อความเหมาะสมตามมาตรฐานในอุตสาหกรรมและโดยสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และบริษัทเคารพสิทธิตามกฎหมายของสมาชิกในฐานะเจ้าของข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งสมาชิกสามารถขอใช้สิทธิที่มีดังต่อไปนี้ได้ ตามเงื่อนไขกำหนดสิทธิที่ระบุไว้ในกฎหมาย (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม (2) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (4) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (5) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (7) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้
หากสมาชิกต้องการติดต่อสอบถามเกี่ยวกับนโยบายหรือต้องการดำเนินการขอใช้สิทธิของตน สามารถติดต่อบริษัทได้ และบริษัทจะแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของท่านให้ทราบภายในกรอบระยะเวลาที่เหมาะสมตามกฎหมาย ทั้งนี้ สามารถติดต่อบริษัทมาได้ PDPA@aromathailand.com ฝ่ายกฏหมาย โทร 02-1598999 ต่อ 632
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลการใช้คุกกี้ / Cookies Privacy Policy
เรื่อง นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลการใช้คุกกี้
บริษัท เค.วี.เอ็น.อิมปอร์ตเอกซ์ปอร์ต (1991) จำกัด, บริษัท ไลอ้อน ทรี-สตาร์ จำกัด, บริษัท อัลติเมท เบเวอร์เรต โปรดักส์ จำกัด, บริษัท บี ริช คอฟฟี่ จำกัด, บริษัท สยามวอเตอร์คร๊าฟ แอนด์ พาวเวอร์สปอร์ต จำกัด (รวมเรียกว่า “บริษัท”) มีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้ในการทำงานหลายส่วนของเว็บไซต์ เพื่อรับประกันการให้บริการของเว็บไซต์ที่จะอำนวยความสะดวกในการใช้บริการเว็บไซต์ของท่าน โดยบริษัทรับประกันการใช้คุกกี้เท่าที่จำเป็นและรับประกันมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องและจะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่น เว้นแต่เป็นกรณีการใช้คุกกี้บางประเภทที่อาจดำเนินการโดยผู้ให้บริการภายนอก ทั้งนี้เมื่อท่านเข้าใช้บริการเว็บไซต์ บริษัทจะถือว่าท่านตกลงและรับทราบนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว โดยบริษัทสงวนสิทธิในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลาโดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงผ่านทางเว็บไซต์นี้
ประเภทและวัตถุประสงค์การใช้คุกกี้ของบริษัท บริษัทมีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้หลายประเภทเพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังต่อไปนี้
- 1. Strictly Necessary Cookies ซึ่งเป็นคุกกี้ประเภทที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานให้บริการของเว็บไซต์แก่ผู้ใช้งาน
- 2. Functionality Cookies ซึ่งเป็นคุกกี้ประเภทที่จดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือกหรือตั้งค่าบนเว็บไซต์ เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ ภาษา ฟ้อนต์ และรูปแบบการนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลให้แก่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้นตามการตั้งค่าที่เลือกไว้
- 3. Performance Cookies ซึ่งเป็นคุกกี้ประเภทที่ประเมินประสิทธิภาพในการทำงานแต่ละส่วนของเว็บไซต์ ทั้งนี้ คุกกี้ประเภทดังกล่าวอาจดำเนินการโดยผู้ให้บริการภายนอก และ
- 4. Advertising Cookies ซึ่งเป็นคุกกี้ประเภทที่ใช้เพื่อการนำเสนอสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ คุกกี้ประเภทนี้อาจดำเนินการโดยผู้ให้บริการภายนอก
สำหรับคุกกี้ประเภทอื่นนอกเหนือจาก Strictly Necessary Cookies หากได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทจะใช้คุกกี้ดังกล่าวเพื่อจุดประสงค์เฉพาะที่ได้ระบุไว้
สิทธิของเจ้าของข้อมูล บริษัทรับทราบ และเคารพสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลตามกฎหมาย โดยเฉพาะสิทธิถอนความยิน ยอมได้ทางหน้าเว็บไซต์ และท่านสามารถลบการตั้งค่าคุกกี้บน Browser ของตนเองได้เช่นกัน หรือหากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อบริษัทได้ที่ [ฝ่ายกฏหมาย โทร 02–1598999 ต่อ 632] หรือ อีเมล [PDPA@aromathailand.com]
นโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตัวแทนจำหน่าย / Dealer Privacy Notice
เรื่อง นโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตัวแทนจำหน่าย
บริษัท เค.วี.เอ็น.อิมปอร์ตเอกซ์ปอร์ต (1991) จำกัด, บริษัท ไลอ้อน ทรี-สตาร์ จำกัด, บริษัท อัลติเมท เบเวอร์เรต โปรดักส์ จำกัด, บริษัท บี ริช คอฟฟี่ จำกัด, บริษัท สยามวอเตอร์คร๊าฟ แอนด์ พาวเวอร์สปอร์ต จำกัด (รวมเรียกว่า “บริษัท”) มีจุดประสงค์แจ้งนโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตัวแทนจำหน่ายฉบับนี้ (“นโยบาย”) ที่กำหนดเกี่ยวกับสิทธิ เงื่อนไขและความจำเป็นของบริษัทในการเก็บ ประมวลผลและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในฐานะตัวแทนจำหน่ายของบริษัท (“Dealer”) เพื่อให้ทราบ
“ข้อมูลส่วนบุคคล” ภายใต้นโยบายฉบับนี้ ที่บริษัทมีความจำเป็นในการประมวผลข้อมูล ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม และ/หรือตัวแทนผู้ได้รับมอบหมาย หรือมอบอำนาจจาก Dealer ในการติดต่อประสานงานกับบริษัทในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประสานงานในฐานะตัวแทนจำหน่าย (“ตัวแทน”) ซึ่งเมื่อ Dealer นำส่งข้อมูลของตัวแทนของตนมายังบริษัท บริษัทจะถือว่า Dealer รับประกันสิทธิโดยสมบูรณ์ในการส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตัวแทนดังกล่าวให้แก่บริษัทโดยสมบูรณ์แล้ว และบริษัทย่อมมีสิทธิในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตัวแทนเหล่านั้นได้ภายใต้นโยบายฉบับนี้
นอกจากข้อมูลของตัวแทนแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจได้รับระหว่างการปฏิบัติสัญญาแต่งตั้งตัวแทน อาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง พนักงานของ Dealer ที่จะได้รับการฝึกอบรมจากทางบริษัท ซึ่งในกรณีการส่งข้อมูลของพนักงานดังกล่าวนี้ Dealer ต้องรับประกันสิทธิในการส่งต่อข้อมูลดังกล่าวให้แก่ บริษัท และรับทราบว่า บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดัง กล่าวในฐานะเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ให้แก่ Dealer ซึ่ง Dealer จะมีหน้าที่โดยตรงในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลในการ แจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานดังกล่าวที่บริษัทมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามคำสั่งของท่าน
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผล ได้แก่ ข้อมูลทั่วไปของตัวแทน ได้แก่ ชื่อนามสกุล และข้อมูลการติดต่อ เอกสารแสดงตนของตัวแทน (ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อประกอบการลงนามและทำสัญญา) รวมถึงข้อมูลประเภทอื่นของตัวแทนที่ Dealer หรือตัวแทนดังกล่าวอาจเปิดเผยหรือนำส่งให้แก่บริษัท
วัตถุประสงค์และระยะเวลาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะได้รับการเก็บ รวบรวม ใช้และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคลของตัวแทนตามที่ระบุไว้ เพื่อวัตถุประสงค์และระยะเวลา ดังนี้ :
- เพื่อการจัดทำเอกสารสัญญาและการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา โดยเฉพาะเพื่อ (1) การติดต่อสื่อสารประสานงานระหว่างกระบวนการตกลงเจรจาธุรกรรมการทำสัญญาระหว่างกัน ติดตามการขาย การให้บริการสนับสนุนอื่นๆ และ (2) การปฏิบัติสิทธิและหน้าที่ของบริษัทภายใต้สัญญาตัวแทนจำหน่ายที่ลงนามกับ Dealer รวมถึงสัญญาการซื้อขายและการให้บริการสนับสนุนอื่น ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันระหว่างบริษัทและ Dealer
ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของตัวแทนของ Dealer ไว้เพื่อวัตถุประสงค์นี้ ตลอดระยะเวลาที่บริษัทยังมีหน้าที่ภายใต้สัญญาแต่งตั้งตัวแทนและสัญญาซื้อขาย รวมถึงการให้บริการอื่นที่บริษัทต้องดำเนินการให้แก่ Dealer และโดยเฉพาะตลอดระยะเวลาสัญญาแต่งตั้งการเป็นผู้แทนจำหน่าย หรือสัญญาว่าจ้างที่เกี่ยวข้อง
- เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทต้องดำเนินการ เช่น การจัดทำบัญชีและชำระภาษีของบริษัท ตลอดระยะเวลาตามกรอบที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
- เพื่อการใช้สิทธิประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท โดยไม่กระทบสิทธิตัวแทนเกินสมควร ได้แก่ การประมวลผลข้อมูลเพื่อ (1) การวางแผนการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและ Dealer (2) การพิจารณาทบทวนการแก้ไขข้อร้องเรียนต่าง ๆ(3) การจัดทำรายงานการติดตามผลการประกอบการของ Dealer นั้น (4) การเก็บรักษาข้อมูลของผู้ที่อาจสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่อาจยังมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนเป็นระยะเวลาอีก 1 ปีปฏิทินในกรณีที่ผู้สมัครดังกล่าวอาจกลับมาสมัครเป็นตัวแทนอีกครั้ง และ (5) การปกป้องสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ในการเรียกร้องหรือต่อสู้ข้อเรียกร้องใดที่บริษัท และ Dealer อาจมีข้อพิพาทระหว่างกัน เป็นระยะเวลา 1 ปีปฏิทินหลังจากการยกเลิกหรือสิ้นสุดสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย
การเปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
โดยหลักการแล้ว บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตัวแทนของ Dealer ให้แก่บุคคลภายนอก แต่ในกรณีจำเป็นบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของตัวแทนของ Dealer ให้แก่ (i) ผู้ให้บริการภายนอก ที่ได้รับการว่าจ้างโดยบริษัทเพื่อการปฏิบัติสิทธิและหน้าที่ของบริษัทที่อาจมีกับ Dealer หรือเพื่อการดำเนินธุรกิจทั่วไปของบริษัท และ (ii) หน่วยงานราชการต่าง ๆ ซึ่งบริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามคำสั่งของหน่วยงานนั้น ๆ ในการเปิดเผยข้อมูล ทั้งนี้ ในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวทั้งหมด บริษัทจะดำเนิน การเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทรับประกันจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมตามมาตรฐานในอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สิทธิของเจ้าของข้อมูล
บริษัทเคารพสิทธิตามกฎหมายของตัวแทนของ Dealer ในฐานะเจ้าของข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในการควบคุมของบริษัท โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิที่มีดังต่อไปนี้ได้ตามกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม (2) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (4) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (5) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (7) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้
Dealer สามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ หรือติดต่อเพื่อใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของตัวแทนของ ท่านได้ โดยบริษัทจะแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของท่านให้ทราบภายในระยะเวลาที่เหมาะสมตามกรอบกฎหมาย กรุณาติดต่อบริษัทที่ [ฝ่ายกฏหมาย โทร 02–1598999 ต่อ 632] หรือ อีเมล [PDPA@aromathailand.com]
นโยบายความเป็นส่วนตัวการจัดงานกิจกรรมต่างๆ สำหรับการเข้างานและการลงทะเบียน / Event Campaign Privacy Notice
เรื่อง นโยบายความเป็นส่วนตัวการจัดงานกิจกรรมต่างๆ
สำหรับการเข้างานและการลงทะเบียน
บริษัท เค.วี.เอ็น.อิมปอร์ตเอกซ์ปอร์ต (1991) จำกัด, บริษัท ไลอ้อน ทรี-สตาร์ จำกัด, บริษัท อัลติเมท เบเวอร์เรต โปรดักส์ จำกัด, บริษัท บี ริช คอฟฟี่ จำกัด, บริษัท สยามวอเตอร์คร๊าฟ แอนด์ พาวเวอร์สปอร์ต จำกัด (รวมเรียกว่า “บริษัท”) ในฐานะผู้จัดกิจกรรม (Event / Campaign) ขอแจ้งให้ท่านที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมทราบว่า ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้แก่ (1) ชื่อ นามสกุล (2) ข้อมูลการติดต่อ (เช่น เบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล) (3) ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่ท่านอาจให้แก่บริษัทผ่านแบบฟอร์มการลงทะเบียน หรือแบบฟอร์มใบสมัคร (ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ข้อมูลความสนใจ ข้อมูลคุณสมบัติอื่นของท่าน) (4) เอกสารแสดงตัวตนของท่านกรณีที่บริษัทกำหนดเป็นเงื่อนไขคุณสมบัติการเข้าร่วมกิจกรรมหรือเพื่อการจัดทำเอกสารด้านบัญชีและภาษีของบริษัท และอาจรวมถึง (5) ภาพถ่ายการเข้าร่วมกิจกรรมหรือการรับรางวัล
บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ เพื่อจุดประสงค์ ดังนี้ (1) ในการลงทะเบียน (2) การพิจารณาคุณสมบัติ และความเหมาะสมในการเข้าร่วมกิจกรรมของท่าน ตามเงื่อนไขการจัดกิจกรรมที่บริษัทอาจกำหนด (3) การติดต่อสื่อสารและประสานงานระหว่างบริษัทและท่าน (4) การยืนยันสิทธิและตัวตนของท่านในการเข้าร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้น (5) การจัดทำเอกสารบัญชีและภาษี (เท่าที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกรณีที่ท่านอาจชนะได้รับรางวัลจากการเข้าร่วมกิจกรรม) รวมถึง (6) การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมที่บริษัทได้ดำเนินการ ผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารต่าง ๆ ของบริษัท โดยบริษัทสงวนสิทธิในการเก็บ รวบรวม ใช้ ประมวลผลและเก็บรักษาข้อมูลการลงทะเบียนของท่านตลอดระยะเวลาที่จำเป็นในการจัดกิจกรรม และตลอดระยะเวลาตามกฎหมายที่บริษัทมีหน้าที่ต้องดำเนินการ
บริษัทรับประกันการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลอื่น เว้นแต่เป็นการเปิดเผยให้แก่ผู้ให้บริการภายนอกที่ให้การบริการแก่บริษัทในการจัดกิจกรรมโดยตรงเท่านั้น หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการใช้สิทธิใดเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้แก่บริษัท ตามที่กำหนดไว้ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทได้ที่ [ฝ่ายกฏหมาย โทร 02–1598999 ต่อ 632] หรือ อีเมล [PDPA@aromathailand.com]
นโยบายความเป็นส่วนตัวการจัดงานกิจกรรมต่างๆ สำหรับการถ่ายภาพบรรรยากาศการจัดกิจกรรม / Event Photo Privacy Notice
เรื่อง นโยบายความเป็นส่วนตัวการจัดงานกิจกรรมต่างๆ
สำหรับการถ่ายภาพบรรรยากาศการจัดกิจกรรม
บริษัท เค.วี.เอ็น.อิมปอร์ตเอกซ์ปอร์ต (1991) จำกัด, บริษัท ไลอ้อน ทรี-สตาร์ จำกัด, บริษัท อัลติเมท เบเวอร์เรต โปรดักส์ จำกัด, บริษัท บี ริช คอฟฟี่ จำกัด, บริษัท สยามวอเตอร์คร๊าฟ แอนด์ พาวเวอร์สปอร์ต จำกัด (รวมเรียกว่า “บริษัท”) ขอแจ้งให้ท่านผู้เข้าร่วมกิจกรรมทราบว่า ในระหว่างกิจกรรม บริษัทจะดำเนินการเก็บภาพ ไม่ว่าจะในลักษณะของภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวของท่านผู้เข้าร่วมในกิจกรรมเพื่อนำภาพดังกล่าวไปประกอบเป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์บริษัทผ่านช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ไม่ว่าจะผ่านช่องทางของบริษัทโดยตรงหรือผ่านช่องทางสื่ออื่น ๆ โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เข้าร่วมดังกล่าว ตราบเท่าที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทรับประกันจะไม่ดำเนินการในลักษณะที่อาจกระทบสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลมากเกินสมควร และรับประกันการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลอื่น เว้นแต่เป็นการเปิดเผยให้แก่ผู้ให้บริการภายนอกที่ให้การบริการแก่บริษัทในการจัดกิจกรรมโดยตรงเท่านั้น ทั้งนี้สื่อประชาสัมพันธ์ที่อาจรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจได้รับการเปิดเผยเป็นสื่อประชาสัมพันธ์สาธารณะของบริษัท
หากท่านไม่ต้องการให้มีการบันทึกภาพ ท่านสามารถแจ้งจุดประสงค์ของท่านได้ที่พนักงานของบริษัททราบ ณ จุดลงทะเบียนหรือสามารถแสดงเจตนาอย่างชัดเจนในการปฏิเสธการถ่ายภาพดังกล่าวได้ และหากท่านประสงค์จะใช้สิทธิเกี่ยวเนื่องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (เช่น ภาพถ่าย) ที่บริษัทได้เก็บ รวบรวม หรือประมวลผลอยู่ ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ที่ [ฝ่ายกฏหมาย โทร 02–1598999 ต่อ 632] หรือ อีเมล [PDPA@aromathailand.com]
นโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้า Hario / Hario Customer Privacy Notice
เรื่อง นโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้า Hario
บริษัท เค.วี.เอ็น.อิมปอร์ตเอกซ์ปอร์ต (1991) จำกัด (“บริษัท”) ในฐานะผู้บริหารจัดการร้านและจำหน่ายสินค้า Hario ทั้งหมด มีจุดประสงค์แจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้าฉบับนี้ (“นโยบาย”) ที่กำหนดเกี่ยวกับสิทธิ เงื่อนไขและความจำเป็นของบริษัทในการเก็บ ประมวลผลและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในฐานะลูกค้าที่ติดต่อมายังบริษัท และ/หรือซื้อสินค้า (“ลูกค้า”) เพื่อให้ทราบถึงความจำเป็นและเงื่อนไขในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทต้องดำเนินการ
การยอมรับนโยบาย
นโยบายฉบับนี้ใช้สำหรับการติดต่อ และ/หรือการซื้อขายสินค้าของบริษัทโดยตรง ซึ่งอาจเป็นการติดต่อผ่าน ช่องทางการติดต่อสื่อสาร ทั้งในลักษณะที่เป็น Offline ได้แก่ การซื้อสินค้าหน้าร้าน และ Online ซึ่งรวม เว็บไซต์ หรือ Social Media ของบริษัท ทั้งนี้ เมื่อลูกค้าติดต่อ และ/หรือซื้อสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัท ทางบริษัทจะถือว่าลูกค้าตกลงและยอมรับนโยบายลฉบับนี้แล้ว
ทางบริษัทสงวนสิทธิในการปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และรูปแบบการติดต่อ การขาย การจัดส่งสินค้า รวมถึงการให้บริการต่างๆ ของบริษัทที่ให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ผ่านทางช่องทางการติดต่อของบริษัท
ข้อมูลที่มีการประมวลผล
ในการติดต่อประสานงาน การซื้อขายสินค้า การชำระราคา การจัดส่งสินค้าระหว่างบริษัทและท่าน บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าในแต่ละขั้นตอน ดังต่อไปนี้
- 1. สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าหน้าร้าน Hario ข้อมูลภาพถ่ายใบหน้าของท่านที่บริษัทอาจจัดเก็บได้จากการจัดเก็บภาพใบหน้าด้วยระบบกล้อง CCTV ที่มีการติดตั้งอยู่ภายในพื้นที่ร้านค้า และการจัดเก็บภาพถ่ายจากการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทที่อาจจัดขึ้น ทั้งในลักษณะของการจัดกิจกรรมและการจัดทำการถ่ายทอดสดหรือการบันทึกวีดีโอต่างๆ ภายในพื้นที่ร้านค้า ซึ่งกรณีของการจัดกิจกรรมหรือจัดทำการถ่ายทอดสดดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ให้มีการถ่ายภาพของท่าน ท่านอาจต้องหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่มีการถ่ายทอดสดหรือท่านสามารถแจ้งจุดประ สงค์ปฏิเสธการถ่ายภาพดังกล่าวได้
- 2. ข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารแสดงตนรวมถึงสำเนาเอกสารดังกล่าว เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง เป็นต้น และข้อมูลการชำระเงินค่าสินค้า ซึ่งอาจรวมถึง Payment Slip หรือข้อมูลบัตรเครดิต ที่จะมีการเก็บผ่านระบบ POS เฉพาะกรณีที่ท่านมีจุดประสงค์ออกใบกำกับภาษี
- 3. ข้อมูลสำหรับการจัดส่งสินค้า สำหรับการซื้อสินค้าที่ลูกค้าต้องการให้มีการจัดส่งสินค้า รวมถึงข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องในการสั่งซื้อสินค้าแต่ละรูปแบบ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงสินค้า Specialty Coffee สินค้าสั่งล่วงหน้า รวมถึงการใช้บริการแลกคืนหรือซ่อมแซมรับประกันชำรุดบกพร่อง
- 4. สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่านช่องทาง Online ได้แก่ ข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า ได้แก่ ข้อมูลรายละเอียดคำสั่งซื้อ สินค้าที่ซื้อ และจำนวนยอดเงินรวมจากการซื้อสินค้า ข้อมูลหลักฐานการชำระเงิน เป็นต้น
- 5. ข้อมูลอื่นที่ลูกค้าอาจให้แก่บริษัทเกี่ยวกับลักษณะการทำการตลาดที่ลูกค้าต้องการ หรือข้อมูลที่ลูกค้าให้เพื่อการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขาย การสำรวจ การแข่งขัน การชิงรางวัล หรือกิจกรรมลักษณะใดๆ กับบริษัท
- 6. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่ลูกค้าอาจให้ยินยอมหรือนำส่งให้แก่บริษัท เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เช่น ข้อมูลการติดต่อ เพื่อรับการบริการสนับสนุน หรือแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนด เป็นต้น
วัตถุประสงค์และระยะเวลาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามที่ระบุไว้ข้างต้น เพื่อวัตถุประสงค์และระยะเวลา ดังนี้:
- เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา บริษัทต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เพื่อการตอบคำถามหรือการจัดการข้อร้องเรียนหรือการให้ความคิดเห็นต่าง ๆ ตามที่ลูกค้าอาจแจ้งมายังบริษัท และเพื่อการปฏิบัติสิทธิหน้าที่ที่บริษัทมี ภายใต้เงื่อนไขการซื้อขายระหว่างบริษัทและลูกค้า ซึ่งรวมถึงการยืนยันคำสั่งซื้อสินค้า ยืนยันลูกค้าผู้ซื้อสินค้า ยืนยันการชำระเงิน การจัดส่งสินค้า การรับประกันความชำรุดบกพร่อง การแลกเปลี่ยนและคืนสินค้า โดยบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไว้ ตลอดระยะเวลาที่บริษัทยังมีหน้าที่ในการให้บริการจัดส่งหรือส่งมอบสินค้าให้แก่ลูกค้า ภายใต้สัญญาซื้อขาย และ/หรือสัญญาให้บริการอื่น
- เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทต้องดำเนินการ เช่น การจัดทำบัญชีและชำระภาษีของบริษัท โดยเฉพาะกรณีที่ลูกค้าอาจขอใบกำกับภาษีจากบริษัท และการเก็บบันทึกการใช้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สาย ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าเพื่อการจัดทำเอกสารดังกล่าว ตลอดระยะเวลาตามกรอบที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
- เพื่อการดำเนินการเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่กระทบสิทธิลูกค้าในฐานะเจ้าของข้อมูลเกินสมควร ได้แก่
- การใช้ข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ ในการปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่บริษัทมีกับลูกค้า รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยง การใช้ข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ปรับปรุงการให้บริการ การออกแบบผลิตภัณฑ์ สินค้า รวมถึงการจัดกลุ่มของลูกค้าเพื่อประโยชน์ในการวางแผนการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ของบริษัท การจัดเก็บข้อมูลความชอบส่วนตัวของลูกค้าเพื่อประโยชน์ในการให้บริการ
- การใช้ภาพถ่ายใบหน้าของลูกค้าที่หน้าร้าน ซึ่งเก็บรวบรวมด้วยระบบ CCTV เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่ร้าน และเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าที่มาใช้บริการภายในพื้นที่ร้าน และที่เก็บจากการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่จัดขึ้นภายในพื้นที่ของร้านค้า
- การเก็บข้อมูลเพื่อประโยชน์การปกป้องสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ในกรณีเกิดข้อร้องเรียนหรือการต่อสู้ใดระหว่าง บริษัทและลูกค้า รวมถึงการใช้ข้อมูลเพื่อการฝึกอบรม หรือติดตามการให้บริการของพนักงานของบริษัท
เพื่อวัตถุประสงค์นี้ บริษัทรับประกันจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ โดยจะไม่ดำเนินการใดที่กระทบสิทธิของเจ้าของข้อมูลเกินสมควร
- ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากลูกค้า บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่อวัตถุประสงค์ที่ลูกค้าให้ความยินยอมดังกล่าว เช่น การใช้ข้อมูลเพื่อการติดต่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสินค้าอื่นของบริษัทรวมถึงบริษัทในเครือ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงสินค้าของ AROMA และสินค้าแบรนด์อื่น) ซึ่งตรงกับความสนใจของลูกค้า ให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางการติดต่อต่างๆ
ทั้งนี้ บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว จนกว่าลูกค้าจะยกเลิกความยินยอมที่ลูกค้าได้ให้แก่บริษัท
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โดยหลักการแล้ว บริษัทจะไม่เปิดเผยส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลภายนอก แต่ในกรณีจำเป็นบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้ (1) ผู้ให้บริการภายนอกที่เกี่ยวข้องซึ่งให้บริการที่เกี่ยวข้องแก่ทางบริษัท ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเฉพาะเท่าที่จำเป็น ตามกรอบเงื่อนไขการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะได้จัดทำและลงนามร่วมกับผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าว (2) หน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่หน่วยงานนั้นตามกฎหมาย ตามคำสั่งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น และ (3) กรณีที่ลูกค้าให้ความยินยอม บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่ลูกค้าระบุไว้เป็นการเฉพาะ
มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทรับประกันการจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมตามมาตรฐานในอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สิทธิของเจ้าของข้อมูล
บริษัทเคารพสิทธิตามกฎหมายของลูกค้าในฐานะเจ้าของข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในการควบคุมของบริษัท โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิที่มีดังต่อไปนี้ได้ตามกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม (2) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (4) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (5) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (7) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้
ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ หรือติดต่อเพื่อใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของท่านให้ทราบภายในระยะเวลาที่เหมาะสมตามกรอบกฎหมาย กรุณาติดต่อบริษัทที่ PDPA@aromathailand.com ฝ่ายกฏหมาย โทร 02-1598999 ต่อ 632
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลคู่ค้า / Vendor Privacy Notice
เรื่อง นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลคู่ค้า
บริษัท เค.วี.เอ็น.อิมปอร์ตเอกซ์ปอร์ต (1991) จำกัด, บริษัท ไลอ้อน ทรี-สตาร์ จำกัด, บริษัท อัลติเมต เบเวอร์เรต โปรดักส์ จำกัด, บริษัท บี ริช คอฟฟี่ จำกัด, บริษัท สยามวอเตอร์คร๊าฟ แอนด์ พาวเวอร์สปอร์ต จำกัด (รวมเรียกว่า “บริษัท”) สามารถดำเนินกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและทำสัญญาซื้อขายหรือว่าจ้างท่านในฐานะคู่ค้าของบริษัท (“ท่าน”) ได้ กรุณาศึกษานโยบายข้อมูลส่วนบุคคลคู่ค้าฉบับนี้อย่างละเอียด ก่อนที่ท่านจะส่งข้อมูลการเสนอราคาและข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ของท่านหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่าน ให้แก่บริษัท ทั้งนี้ บริษัทรับประกันจะรักษาข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดตามมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยโดยสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผล
ในระหว่างกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างระหว่างบริษัทและคู่ค้า บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรง ตามข้อมูลในใบเสนอราคา การสนทนาหรือการสัมภาษณ์ หรืออาจได้รับจากบุคคลอื่นที่อาจให้คำแนะนำท่านให้แก่บริษัท ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลในกระบวนการดังกล่าวอาจรวมถึงข้อมูล ดังต่อไปนี้
- ชื่อนามสกุล ข้อมูลบัตรประจำประชาชนของท่านซึ่งเป็นคู่ค้าที่เป็นบุคคลธรรมดา หรือของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม ผู้รับมอบอำนาจ หรือตัวแทนของท่านซึ่งเป็นคู่ค้าที่เป็นนิติบุคคล (“ตัวแทนคู่ค้า”) รวมถึงข้อมูลการติดต่อ อาทิ ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล และอาจรวมถึงข้อมูล เอกสารแสดงตัวตนของท่าน หรือของตัวแทนคู่ค้า และข้อมูลอื่นที่ท่านอาจนำส่งหรือเปิดเผยให้แก่บริษัทระหว่างการจัดซื้อจัดจ้างและการทำสัญญาระหว่างกัน
- ข้อมูลการชำระเงินกรณีท่านเป็นคู่ค้าที่เป็นบุคคลธรรมดา อาทิเช่น บัญชีธนาคาร ประวัติการเบิกจ่ายเงินต่าง ๆ โดยคู่ค้ารายนั้น
- ข้อมูลประวัติการทำงาน และแบบประเมินความสามารถและการวัดผลต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลอื่นซึ่งท่านอาจนำส่งหรือเปิดเผยให้แก่บริษัท ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่ที่คู่ค้าอาจต้องดำเนินการภายใต้กรอบสัญญาที่มีการลงนามระหว่างบริษัทและคู่ค้า
- ในบางกรณีบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานภายใต้สังกัดของท่านคู่ค้า โดยเฉพาะพนักงานที่จะขออนุญาตเข้ามาให้บริการและปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลชื่อนามสกุล ข้อมูลการติดต่อข้อมูลทะเบียนรถ ชื่อคนขับรถวัตถุดิบ และอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (ได้แก่ ลายนิ้วมือของบุคลากรผู้เข้ามาทำงานในพื้นที่ของบริษัท) เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทจะถือว่า ท่านในฐานะต้นสังกัดของพนักงานดังกล่าวรับประกันสิทธิในการส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องดังกล่าวให้แก่บริษัท และบริษัทย่อมมีสิทธิในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านั้นได้สมบูรณ์ภายใต้นโยบายฉบับนี้
วัตถุประสงค์และระยะเวลาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของคู่ค้า เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- การตรวจสอบยืนยันตัวตน ความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลที่คู่ค้าให้แก่บริษัท การประเมินความเหมาะสมของคู่ค้าในงานที่บริษัทต้องการจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงการติดต่อประสานงานกับคู่ค้าระหว่างกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง จนถึงการจัดทำสัญญา และแม้เป็นกรณีที่คู่ค้าไม่ได้รับการคัดเลือก บริษัทสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลของคู่ค้าดังกล่าวไว้ต่อเนื่องเพื่อการติดตามตรวจ สอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเป็นระยะเวลา [2 ปีปฏิทิน] นับจากเสร็จสิ้นกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว
- การปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทภายใต้สัญญาที่ลงนามระหว่างคู่ค้ากับบริษัท ได้แก่ การประเมินผลงานและประสิทธิภาพในการทำงานของคู่ค้าเพื่อการคำนวณค่าตอบแทน รวมถึงการปฏิบัติบังคับสิทธิและหน้าที่อื่น ภายใต้สัญญาที่มีการลงนามระหว่างกัน
- การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทโดยเฉพาะการทำบัญชีและชำระภาษี ในกรณีของคู่ค้าที่เป็นบุคคลธรรมดา
- การคุ้มครองสิทธิประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เมื่อต้องดำเนินการบังคับสิทธิต่อคู่ค้าที่อาจปฏิบัติไม่สอดคล้องหรือละเมิดหน้าที่ที่กำหนดไว้ภายใต้สัญญาที่เกี่ยวข้อง รวมถึงใช้ในการปกป้องสิทธิในการฟ้องร้องคดี หรือการตรวจสอบภายในในส่วนของกระบวนการทำงานของบริษัทและคู่ค้าที่เกี่ยวข้อง
- การคุ้มครองสิทธิความมั่นคงปลอดภัยและจำกัดสิทธิของผู้ที่สามารถเข้ามาในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในบางกรณีเมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลที่เกี่ยวข้อง อาจรวมถึงการเก็บรวบรวม ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ได้แก่ ลายนิ้วมือของพนักงานภายใต้สังกัดของคู่ค้าที่เกี่ยวข้อง
เพื่อวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุไว้ดังกล่าว บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าทั้งหมดที่นำส่งให้แก่บริษัทไว้ ตลอดระยะเวลาสัญญาที่บริษัทอาจมีกับคู่ค้าแต่ละราย นอกจากนี้ เพื่อประโยชน์ในการปกป้องสิทธิของบริษัทภายใต้สัญญาที่เกี่ยวข้อง บริษัทสงวนสิทธิที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของคู่ค้าเป็นระยะเวลาตามรอบระยะเวลาบัญชีและภาษีของบริษัท และในกรณีที่บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายในการประมวลผลข้อมูล บริษัทมีความจำเป็นต้องรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าไว้ตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายดังกล่าวกำหนด
การเปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า
ในกรณีที่จำเป็น บริษัทอาจต้องเปิดเผยและ/หรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าให้แก่บุคคลภายนอก ได้แก่ (1) ลูกค้า หรือคู่ค้าอื่น ๆ ของบริษัท ซึ่งบริษัทมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ และการให้บริการโดยบริษัทให้แก่ลูกค้าหรือคู่ค้าดังกล่าวนั้น (2) ผู้ให้บริการภายนอกของบริษัทที่ได้รับการว่าจ้างจากบริษัทให้ช่วยเหลือสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัท รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง บริษัทในเครือ บริษัทที่ปรึกษา หรือบริษัทตรวจสอบบัญชี เป็นต้น โดยบริษัทจะดำเนินการดังกล่าวเท่าที่จำเป็น ภายใต้กรอบข้อตกลงสัญญาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างบริษัทและบุคคลภายนอกดังกล่าวเท่านั้น และ (3) หน่วย งานราชการ ซึ่งบริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมาย คำพิพากษา หรือตามคำสั่งของหน่วยงานราชการให้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวโดยบริษัทจะดำเนินการเพียงเท่าที่จำเป็นตามหน้าที่เท่านั้น
สิทธิของคู่ค้าในฐานะเจ้าของข้อมูล
บริษัทเคารพสิทธิของคู่ค้า ในฐานะเจ้าของข้อมูลภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยคู่ค้าสามารถติดต่อบริษัทเพื่อขอใช้สิทธิของคู่ค้า ซึ่งได้แก่ สิทธิเพิกถอนความยินยอม สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือสิทธิในการร้องเรียนกรณีเกิดการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยติดต่อมาที่ PDPA@aromathailand.com ฝ่ายกฏหมาย โทร 02-1598999 ต่อ 632
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลการเฝ้าระวังสถานการณ์ COVID-19
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลการเฝ้าระวังสถานการณ์ COVID–19
บริษัท เค.วี.เอ็น.อิมปอร์ตเอกซ์ปอร์ต (1991) จำกัด, บริษัท ไลอ้อน ทรี-สตาร์ จำกัด, บริษัท อัลติเมท เบเวอร์เรต โปรดักส์ จำกัด, บริษัท บี ริช คอฟฟี่ จำกัด, บริษัท สยามวอเตอร์คร๊าฟ แอนด์ พาวเวอร์สปอร์ต จำกัด (รวมเรียกว่า “บริษัท”) ในฐานะเจ้าของสถานที่ซึ่งมีหน้าที่ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อในการเก็บและแจ้งข้อมูลกรณีที่พบผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่อ COVID–19 ในสถานที่ของบริษัทขอแจ้งให้ท่านผู้เข้ามาภายในพื้นที่ของบริษัท (ทั้งที่เป็นพนักงานของบริษัทหรือผู้เข้าเยี่ยมชมพื้นที่บริษัท) ทราบว่า ทางบริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลอุณหภูมิและข้อมูลสุขภาพของท่านเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายในการเฝ้าระวังโรคดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการเก็บข้อมูลของผู้เข้ามาภายในพื้นที่ทั้งหมดตามเกณฑ์ที่หน่วยงานเจ้าหน้าที่โรคติดต่อหรือหน่วยงานราชการอาจกำหนดเป็นคำแนะนำหรือคำสั่ง รวมถึงตามกำหนดระยะเวลาที่บริษัทอาจพิจารณาถึงความจำเป็นเพื่อรับประกันการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทภายใต้กฎหมายทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์โดยบริษัทจะรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลดังกล่าวอย่างดีที่สุดตามมาตรฐานที่ควรจะเป็นตามกฎหมาย
นอกจากนี้ บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดที่บริษัทเก็บให้แก่บุคคลภายนอก เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่อกรณีที่ท่านเป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยเท่านั้น
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หรือต้องการขอใช้สิทธิที่มีเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง อันได้แก่ สิทธิในการขอเข้าถึง ขอสำเนา ขอปรับปรุงข้อมูล ขอคัดค้าน การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ขอโอนถ่ายข้อมูล รวมถึงการขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลของท่านเมื่อหมดความจำเป็น สามารถติดต่อได้ที่ [ฝ่ายกฏหมาย โทร 02–1598999 ต่อ 632] หรือ อีเมล: [PDPA@aromathailand.com]
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลผู้เข้ามาภายในพื้นที่ของบริษัท
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลผู้เข้ามาภายในพื้นที่ของบริษัท
บริษัท เค.วี.เอ็น.อิมปอร์ตเอกซ์ปอร์ต (1991) จำกัด, บริษัท ไลอ้อน ทรี-สตาร์ จำกัด, บริษัท อัลติเมท เบเวอร์เรต โปรดักส์ จำกัด, บริษัท บี ริช คอฟฟี่ จำกัด, บริษัท สยามวอเตอร์คร๊าฟ แอนด์ พาวเวอร์สปอร์ต จำกัด (รวมเรียกว่า “บริษัท”) มีจุดประสงค์แจ้งนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลผู้เข้ามาภายในพื้นที่ของบริษัทฉบับนี้ขึ้นเพื่อให้ท่านที่เข้ามาภายในพื้นที่บริษัทรับทราบเกี่ยวกับความจำเป็นของบริษัทในการเก็บ รวบรวม ใช้ ประมวลผลและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ บริษัทอาจปรับปรุงและปรับเปลี่ยนนโยบายฉบับนี้ได้ตามแต่ละระยะเวลาให้สอดคล้องกับความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของบริษัทและให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะประกาศให้ท่านทราบผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารต่าง ๆ ที่บริษัทมีกับท่าน
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผล
ในระหว่างที่ท่านเข้ามาภายในพื้นที่ของบริษัท บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้แก่ (1) ภาพถ่ายใบหน้าของท่านที่บันทึกผ่านระบบ CCTV (2) ชื่อ นามสกุล ข้อมูลการติดต่อ ทะเบียนรถ ข้อมูลรายละเอียดวัตถุประสงค์การเข้ามาภายในพื้นที่ของบริษัท ซึ่งจะมีการกรอกเข้าในแบบฟอร์มที่บริษัทอาจใช้เพื่อการบันทึกคนเข้าออก หรืออาจเป็นกรณีที่ต้นสังกัดของท่านได้แจ้งรายชื่อและข้อมูลของท่านให้แก่บริษัทเพื่อแจ้งขออนุญาตเข้าพื้นที่ ซึ่งในกรณีที่บริษัทได้รับข้อมูลจากต้นสังกัดของท่าน บริษัทจะถือว่าต้นสังกัดของท่านนั้นมีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายในการส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว (3) บัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารแสดงตนอื่นของท่านซึ่งบริษัทจะเก็บรักษาไว้เพื่อแลกเปลี่ยนกับบัตรผู้เข้าพื้นที่ โดยบริษัทจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไว้เป็นระยะเวลาสูงสุดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง (4) ชื่อ นามสกุลและรายละเอียดของอุบัติเหตุ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุภายในพื้นที่ของบริษัท
วัตถุประสงค์การประมวลผล
บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เข้ามาในพื้นที่ของบริษัทเพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยของสถานที่และของท่านในฐานะผู้เข้ามาภายในสถานที่ รวมถึงความปลอดภัยของบุคคลอื่น ๆ รวมถึงวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูล
บริษัทมีความจำเป็นในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลา ดังนี้ (1) สำหรับข้อมูลบัตรประจำตัวหรือเอกสารแสดงตนอื่นของท่าน บริษัทจะคืนบัตรให้แก่ท่านทันทีเมื่อท่านแลกคืนบัตรผู้เข้าพื้นที่ให้แก่บริษัท (2) ข้อมูลที่บันทึกในระบบ CCTV จะถูกเก็บบันทึกไว้เป็นระยะเวลา 14 วัน (3) ข้อมูลในแบบฟอร์มผู้เข้าพื้นที่และแบบฟอร์มการแจ้งเกิดอุบัติเหตุจะได้รับการเก็บรักษาไว้เพื่อการตรวจสอบเป็นระยะเวลา 14 วัน เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทอาจจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อการปกป้องฟ้องร้องสิทธิที่บริษัทอาจมีต่อท่านผู้เข้ามาภายในพื้นที่ ซึ่งบริษัทสงวนสิทธิเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมตามอายุความในกฎหมาย
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โดยหลักการ บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมดังกล่าวให้แก่บุคคลภายนอก เว้นแต่เป็นการเปิดเผยให้แก่ผู้ดูแลระบบการเข้าอาคาร หรือเป็นกรณีจำ เป็นเพื่อจุดประสงค์การใช้สิทธิเรียกร้องจากการกระทบสิทธิของบุคคลอื่น การใช้สิทธิต่อสู้ฟ้องร้องของบริษัทในฐานะเจ้าของสถานที่ หรือเป็นกรณีการปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานรัฐหรือหน้าที่ตามกฎหมายอื่น ๆ เท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการเท่าที่จำเป็นเท่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้กระทบสิทธิของท่านจนเกินสมควร
การรับประกันความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิเจ้าของข้อมูล
บริษัทรับประกันการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลที่เก็บไว้ด้วยมาตรฐานที่เหมาะสมตามที่ระบุไว้ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องและบริษัทให้ความสำคัญรวมถึงเคารพสิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หรือต้องการขอใช้สิทธิที่มีเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง อันได้แก่ สิทธิเพิกถอนความยินยอม สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือสิทธิในการร้องเรียน โดยติดต่อมาที่: [ฝ่ายกฏหมาย โทร 02–1598999 ต่อ 632] หรือ อีเมล: [PDPA@aromathailand.com]
นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลผู้สมัครงาน
เรื่อง นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลผู้สมัครงาน
บริษัท เค.วี.เอ็น.อิมปอร์ตเอกซ์ปอร์ต (1991) จำกัด, บริษัท ไลอ้อน ทรี-สตาร์ จำกัด, บริษัท อัลติเมต เบเวอร์เรต โปรดักส์ จำกัด, บริษัท บี ริช คอฟฟี่ จำกัด, บริษัท สยามวอเตอร์คร๊าฟ แอนด์ พาวเวอร์สปอร์ต จำกัด (รวมเรียกว่า “บริษัท”) สามารถพิจารณาข้อมูลใบสมัครงานของท่านได้ กรุณาศึกษานโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้อย่างละเอียดก่อนที่ท่านในฐานะผู้สมัครงาน (“ผู้สมัครงาน”) จะให้ข้อมูลการสมัครแก่บริษัท ทั้งนี้ บริษัทรับประกันจะรักษาข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของผู้สมัครงาน ตามมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยโดยสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผล
ในระหว่างกระบวนการรับสมัครงานของบริษัท บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานจาก (1) ผู้สมัครงานโดยตรงจากข้อมูลในใบสมัครงาน ประวัติย่อ (Resume) การสนทนาหรือการสัมภาษณ์ (2) ผู้ให้บริการจัดหางานหรือผู้แนะนำอื่น ๆ ที่ผู้สมัครงานอาจให้ความยินยอมแก่บุคคลดังกล่าว ในการเปิดเผยส่งต่อข้อมูลของผู้สมัครงานให้แก่บริษัทเพื่อการสมัครงานกับบริษัท (3) บุคคลอื่นที่ผู้สมัครงานระบุให้บริษัทสามารถติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ และ (4) ผู้ให้บริการข้อมูลภายนอกที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้แก่แต่ไม่จำกัดเพียง โรงพยาบาลที่ทำการตรวจสุขภาพ กรมตำรวจ เป็นต้น
ในระหว่างขั้นตอนการกรอกใบสมัครและสัมภาษณ์งาน บริษัทมีความจำเป็นในการเก็บ รวบรวม ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน ได้แก่
- เอกสาร Resume ที่ผู้สมัครอาจนำส่งให้แก่บริษัท
- ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลการติดต่อ ข้อมูลคุณสมบัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ข้อมูลความสนใจหรือทักษะของผู้สมัครงาน และข้อมูลอื่นที่ผู้สมัครต้องกรอกรวมถึงให้ตามที่ระบุในแบบฟอร์มใบสมัครงาน
- เอกสารแสดงตนอื่นของผู้สมัครงาน และข้อมูลอื่นที่ผู้สมัครงานอาจนำส่งให้แก่บริษัทในเอกสารประกอบอื่น และในบางกรณีตำแหน่งงานอาจรวม ถึงข้อมูลประวัติสุขภาพ (เช่น โรคประจำตัว) และความพิการ (ถ้าเกี่ยวข้องและถ้าได้รับความยินยอมจากผู้สมัครงาน)
เมื่อผ่านขั้นตอนการคัดเลือกด้วยการสัมภาษณ์จากทางบริษัทแล้ว บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวเพิ่ม เติมของผู้สมัครงาน ได้แก่ ข้อมูลประวัติอาชญากรรม และข้อมูลการตรวจสุขภาพ โดยบริษัทจะขอความยินยอมจากผู้สมัครงานภายใต้กรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่บริษัทมีความจำเป็นต้องแจ้งให้ผู้สมัครงานทราบว่า ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดนั้นถือว่า มีความจำเป็นสำหรับบริษัทในการพิจารณาคุณสมบัติและความเหมาะสมของผู้สมัครงาน
วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของผู้สมัครงาน เพื่อวัตถุประสงค์ ดังนี้ (1) การตรวจสอบยืนยันตัวตน รวมถึงความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลต่าง ๆ ที่ผู้สมัครงานให้แก่บริษัท (2) การประเมินความเหมาะสมของผู้สมัครงานในตำแหน่งงานที่สมัคร (3) การติดต่อประสานงานกับผู้สมัครงานระหว่างกระบวนการรับสมัครงาน รวมถึง (4) การติดต่อไปหาผู้สมัครงานเพิ่มเติมในอนาคต ในกรณีมีตำแหน่งอื่นที่อาจเหมาะสม ทั้งนี้ เว้นแต่ผู้สมัครงานแสดงเจตนาใช้สิทธิให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลในทันที บริษัทสงวนสิทธิในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของผู้สมัครงานไว้เพิ่มเติมเป็นระยะ 1 ปีปฏิทินแม้ผู้สมัครงานจะไม่ได้รับการคัดเลือกเป็นพนักงานของบริษัท
การเปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน
โดยหลักการ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานจะไม่ได้รับการเปิดเผย เว้นแต่เป็นกรณีจำเป็นซึ่งบริษัทอาจต้องเปิดเผยและ/หรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานให้แก่ บุคคลภายนอกดังนี้ เพื่อการดำเนินกระบวนการรับสมัครงานได้อย่างสมบูรณ์ (1) ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรับสมัครงานของบริษัท (2) บริษัทในเครืออื่นที่อาจมีตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับผู้สมัครงาน (3) บุคคลอ้างอิงที่บริษัทมีความจำเป็นต้องส่งข้อมูลของผู้สมัครงานไปเพื่อการตรวจสอบประวัติการทำงาน และ (4) บุคคลภายนอกอื่นที่ผู้สมัครงานได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าว
สิทธิของเจ้าของข้อมูล
บริษัทเคารพสิทธิของผู้สมัครงานในฐานะเจ้าของข้อมูลภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้สมัครงานสามารถติดต่อบริษัทเพื่อขอใช้สิทธิ ดังนี้ สิทธิเพิกถอนความยินยอม สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดย ทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อ มูลส่วนบุคคลอื่น สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือสิทธิในการร้องเรียนกรณีเกิดการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลได้ โดยติดต่อบริษัทที่ PDPA@aromathailand.com ฝ่ายกฏหมาย โทร 02-1598999 ต่อ 632