เครื่องชงกาแฟเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่จะส่งผลต่อรสชาติของกาแฟ รวมไปถึงความเข้มข้น และกลิ่นสัมผัส ที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเครื่องที่ใช้ ถึงแม้จะมีเรื่องของเทคนิคการชงและคุณภาพของเมล็ดกาแฟเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเครื่องชงกาแฟนั้นเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการทำกาแฟ ดังนั้นในบทความนี้ Aroma จะมาบอกให้ทุกท่านทราบถึงเครื่องชงกาแฟแต่ละประเภทว่ามีแบบไหนบ้าง และมีข้อดีหรือข้อแตกต่างกันอย่างไร
ประเภทของเครื่องชงกาแฟ
เครื่องชงกาแฟมีหลากหลายชนิดมาก ท่านอาจจะเคยเห็นตามคาเฟ่หรือภายในสำนักงานของตน ซึ่งแต่ละแบบก็มีหน้าตาและการทำงานที่ไม่เหมือนกัน

เครื่องชงกาแฟแคปซูล (CAPSULE MACHINE)
ตามที่ชื่อได้บอกไว้ เครื่องชงกาแฟแคปซูลนั้นจะใช้กาแฟที่บดเป็นผงบรรจุในแคปซูลในการชง ที่หลายท่านอาจรู้จักกันในชื่อ เครื่องชงกาแฟแคปซูล ซึ่งเป็นที่นิยมทั้งในครัวเรือน และภายในสำนักงานหรือออฟฟิศเล็กๆ ที่ไม่ต้องการทำกาแฟจำนวนมากๆ อีกทั้งมีโหมดการทำงานที่หลากหลาย สะดวก ใช้งานง่าย รวดเร็ว มีความสม่ำเสมอ สะดวกในการทำความสะอาดตัวเครื่อง และมีราคาไม่สูง สามารถทำเมนูเครื่องดื่มได้สารพัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายแบบไม่ต้องการปรับแต่งอะไรมาก ในทางกลับกันราคาของแคปซูลนั้นจะค่อนข้างสูง และเครื่องแต่ละยี่ห้อก็จะต้องใช้แคปซูลของยี่ห้อนั้นเท่านั้น จะไม่สามารถนำแคปซูลยี่ห้ออื่นใส่แทนได้

VICTORIA ARDUINO VA388 BLACK EAGLE 3 GR.
เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ (ESPRESSO MACHINE)
เป็นเครื่องชงกาแฟที่ท่านสามารถพบเห็นได้ตามร้านกาแฟหรือคาเฟ่ และถือเป็นระบบเครื่องทำกาแฟที่มีราคาหลากหลายที่สุด เริ่มต้นตั้งแต่หลักพันบาทไปถึงหลักหมื่น รวมไปถึงดีไซน์ความสวยงาม ความเสถียรของการชงกาแฟ และฟังก์ชันการใช้งาน ตัวเครื่องอาจมีตั้งแต่ 1 หัวชงไปจนถึง 3 หัวชงเลยทีเดียว เหตุผลที่เครื่องประเภทนี้เป็นที่นิยมในคาเฟ่ต่างๆ ก็เพราะว่าผู้ใช้สามารถกำหนดรสชาติทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปริมาณกาแฟ ปริมาณน้ำที่ใช้ ระดับการไหลของกาแฟ ระดับความละเอียดของการบดเมล็ดกาแฟ น้ำหนักในการอัดกาแฟ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยที่มีผลต่อรสชาติกาแฟทั้งสิ้น เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการลงลึกไปในรสชาติของกาแฟ ต้องการการปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการของผู้ทำมากที่สุด
อย่างที่กล่าวไปเบื้องต้นว่าคาเฟ่และร้านกาแฟจะใช้เครื่องเอสเพรสโซ่กันเกือบทั้งหมด เพื่อต้องการรสชาติของเอสเพรสโซ่ที่ดีที่สุด แต่ก็ต้องใช้เวลานานในการทำ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ค่อนข้างเยอะ รวมถึงต้องบดกาแฟด้วยตัวเอง เหมาะกับบาริสต้าที่มีประสบการณ์มากมายกว่าการใช้ภายในครัวเรือนหรือในสำนักงาน

เครื่องแบบอัตโนมัติ
(FULLY AUTOMATIC COFFEE MACHINE)
เครื่องแบบอัตโนมัตินี้เปรียบเหมือนการนำข้อดีของเครื่องแบบเอสเพรสโซ่และแคปซูลมารวมกัน คือ สะดวก ได้รสชาติกาแฟสดตามที่เราต้องการ และมีความเสถียรในรสชาติอีกด้วย เป็นเครื่องชงกาแฟสำนักงานที่ได้รับความนิยมใน องค์กร หรือออฟฟิศต่างๆ โดยการใช้งานเครื่องนี้ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร เพียงแค่เติมน้ำ ใส่เมล็ดกาแฟเข้าไป และกดปุ่มเมนูที่ต้องการ ก็จะได้กาแฟสดแล้ว ไม่ต้องมีทักษะหรือความรู้ระดับบาริสต้าก็ใช้งานได้ แถมยังเหมาะกับผู้ที่รักกาแฟรสแต่ไม่ชอบขั้นตอนที่ยุ่งยาก

เครื่องแบบหยดหรือแบบดริป (DRIP COFFEE MAKER)
เครื่องชงกาแฟสดแบบดริป ได้รับความนิยมแพร่หลายโดยเฉพาะผู้ใช้งานในบ้าน เนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่าเครื่องแบบอัตโนมัติ พกพาสะดวก ชงได้ทั้งกาแฟคั่วเข้มคั่วอ่อนกำหนดรสชาติกาแฟได้ตามใจต้องการ แต่ด้วยกระบวนการหยดน้ำผ่านกาแฟหรือดริป (Drip) ทำให้รสชาติของกาแฟที่ออกมานั้นไม่เข้มข้นเท่าที่ควร คอกาแฟที่ชอบรสเข้มอาจจะไม่ถูกใจเครื่องนี้เท่าไหร่ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการชงกาแฟแล้ว เครื่องแบบดริปนี้เหมาะมากเลยทีเดียว

CAFE PRESS SLIM S / TRANSPARENT BLACK
เครื่องชงกาแฟแบบเฟรนซ์เพรส (French Press)
อุปกรณ์การชงกาแฟมีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส ใช้งานโดยการเติมเมล็ดกาแฟบดลงในกระบอกแก้ว จากนั้นให้รินน้ำร้อนให้ท่วมส่วนนี้ รอสักพักหนึ่ง จากนั้นให้กดที่ลูกสูบก็จะได้น้ำกาแฟที่ต้องการออกมา ไม่ได้มีระบบที่หรูหรา แต่เครื่องชงกาแฟแบบเฟรนซ์เพรสก็ถือเป็นอุปกรณ์การชงกาแฟแบบคลาสสิก ที่ท่านต้องลองสักครั้ง

เครื่องชงกาแฟแบบสูญญากาศ (Syphon Coffee)
เครื่องชงกาแฟที่มีลักษณะเหมือนกับอุปกรณ์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ ที่ในประเทศไทยคงมีให้เห็นกันไม่มากนัก ถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยจะใช้แรงดันน้ำเป็นตัวทำให้ได้น้ำกาแฟที่มีความเข้มข้น กาต้มจะใช้ตะเกียงแอลกอฮอล์ที่ติดตั้งเอาไว้ด้านนอกส่วนล่างสุด เมื่อน้ำเดือดได้ที่แล้ว ไอน้ำจะส่งตัวพุ่งขึ้นด้านบนไปกระทบกับกากกาแฟและขังอยู่ภายใน เมื่อต้องการดื่มให้ดับตะเกียงและเทผ่านตัวกรองอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งจะให้รสชาติกาแฟที่เข้มข้นและกลมกล่อม แต่ปริมาณน้ำกาแฟที่ได้ในแต่ละครั้งจะน้อยและใช้เวลาในการชงมากกว่าเครื่องแบบอื่นๆ

เครื่องชงแบบมอคคาพอต (MOKA POT)
เครื่องชงกาแฟแบบมอคคาพอตนี้จะให้รสชาติกาแฟเข้มข้นคล้ายกับเครื่องเอสเพรสโซ่ มีการทำงานโดยแยกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนบนที่ใส่ผงกาแฟบด และส่วนล่างที่ใส่น้ำ ตัวเครื่องจะต้มให้น้ำเดือดเพื่อให้ไอน้ำลอยตัวขึ้นไปรวมกับส่วนของกากกาแฟ ผลิตกาแฟรสชาติเข้มข้นออกมานั่นเอง
เครื่องชงกาแฟทั้งหมดที่กล่าวไปนั้น บ้างก็ให้รสชาติกาแฟที่ดี ได้รับความนิยมสูง บ้างก็มีราคาที่ถูกกว่าแต่อาจต้องใช้คู่กับเครื่องบดกาแฟ ทำให้ขั้นตอนมีขั้นตอนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามการเลือกเครื่องเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความถนัดและความชอบของแต่ละท่าน และหากท่านกำลังมองหาเครื่องชงกาแฟคุณภาพควบคู่กับวัตถุดิบร้านกาแฟสามารถติดต่อ Aroma และเลือกสินค้าอย่างสะดวก รวดเร็ว ได้ที่เว็บไซต์ aromathailand.com
WE ARE AROMA
Aroma Group คือผู้นำธุรกิจกาแฟคั่วบด และเครื่องดื่มแบบครบวงจร ที่มีความเชี่ยวชาญ และสั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี ธุรกิจของเราครอบคลุมตลอดต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การคัดสรรและจัดจำหน่ายวัตถุดิบชั้นดี การจำหน่ายเครื่องชงกาแฟ และอุปกรณ์คุณภาพสูง สถาบันสอนพัฒนาธุรกิจร้านกาแฟ รวมถึงธุรกิจร้านกาแฟ จวบจนวันนี้ Aroma Group ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากมายทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมชั้นนำ ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านเบเกอรี่ ทั้งจากตัวแทนจำหน่ายสินค้าของ Aroma กว่า 2,000 ราย ร้านค้าปลีกกว่า 7,000 ร้านค้า และ Aroma Shop กว่า 30 ร้าน พร้อมเสียงตอบรับที่มากขึ้นทุกวัน
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
Showing 13–16 of 20 results
-
Expobar Pulse 65 HS Grinder
เครื่องบดเมล็ดกาแฟ “รุ่นไม่มีโถพัก” เหมาะสำหรับร้านกาแฟขนาดเล็ก และขนาดกลาง
ดูเพิ่มเติม -
Wega Max 5.8
เครื่องบดเมล็ดกาแฟ “รุ่นไม่มีโถพัก” เหมาะสำหรับร้านกาแฟขนาดเล็ก และขนาดกลาง
ดูเพิ่มเติม -
Wega Max 6.4
เครื่องบดเมล็ดกาแฟ “รุ่นไม่มีโถพัก” เหมาะสำหรับร้านกาแฟขนาดเล็ก และขนาดกลาง
ดูเพิ่มเติม -
Mazzer Omega Hand Grinder
Mazzer โฉมใหม่ เอาใจ Home Barista ด้วย Hand Grinder “Mazzer Omega” วัสดุที่แข็งแรงทนทานทำจาก stainless steel ระบบเฟืองบดเป็น conical burr ปรับความละเอียดเบอร์บดได้ถึงระดับ micro-click มีสองรุ่นด้วยกัน Fast และ Soft
ดูเพิ่มเติม ฿14,900.00