เมล็ดกาแฟ เป็นรากฐานชั้นยอดของกาแฟแก้วโปรด รสชาติกาแฟจะออกมารูปแบบไหน ก็ล้วนมีผลมาจากเมล็ดกาแฟคั่วเป็นองค์ประกอบหลักทั้งสิ้น รสชาติขมเข้มหรือเปรี้ยวอ่อน กลิ่นหอมเตะจมูกหรือจาง ๆ กระทั่งทิ้ง long lasting taste note เอาไว้ ล้วนแสดงถึงคุณภาพของเมล็ดกาแฟ และปัจจัยสำคัญที่สามารถทำให้เมล็ดกาแฟคุณภาพดีหรือเสื่อมลงได้ นั่นคือ การเก็บรักษาที่ไม่ดีและการรู้ไม่เท่าทันปัจจัยร้ายรอบกายเรา
4 ปัจจัยที่ทำให้ ‘เมล็ดกาแฟ’ เสื่อมคุณภาพ
อากาศ: หนึ่งตัวการที่เป็นส่วนสำคัญทำให้เมล็ดกาแฟเสื่อมคุณภาพลง ได้แก่ “อากาศ” เพราะเมื่อไหร่ที่เมล็ดกาแฟคั่วสุกแล้วมาสัมผัสอากาศในแต่ละครั้ง จะเกิดกระบวนการ ‘ออกซิเดชัน (Oxidation)’ เป็นผลให้รสชาติและกลิ่นหอมนั้นเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในทางที่แย่ลง ยิ่งโดนอากาศมากเท่าไหร่ เมล็ดกาแฟก็จะยิ่งเสื่อมคุณภาพมากเท่านั้น
แสงไฟและแสงธรรมชาติ: แสง ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ส่งผลให้เมล็ดกาแฟคุณภาพดีนั้นเสื่อมลงได้ ไม่ว่าจะแสงไฟในบ้านหรือแสงแดดจากธรรมชาติ ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญอันที่ทำให้เมล็ดกาแฟสูญเสียไขมัน วิตามินและโปรตีนได้ รวมถึงส่งผลให้เมล็ดกาแฟเน่าเสียได้อีกทางหนึ่งด้วย
ความร้อน: การเก็บเมล็ดกาแฟไว้ในที่แสงแดดส่องถึงจนเกิดความร้อนหรือเก็บไว้ในภาชนะที่ดึงดูดหรือใกล้ความร้อนนั้น จริง ๆ แล้วเป็นผลเสียอย่างรุนแรงต่อเมล็ดกาแฟ เพราะความร้อนหรือสิ่งแวดล้อมที่ก่อให้เกิดความร้อนต่อเมล็ดกาแฟ จะส่งผลให้โมเลกุลของเมล็ดกาแฟคั่วนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จนสูญเสียทั้งกลิ่นหอมและรสชาติ
ความชื้น: เมล็ดกาแฟที่สัมผัสหรือถูกจัดเก็บไว้ในที่ที่มีความชื้นสูง จะส่งผลเสียต่อเมล็ดกาแฟแทบจะในทันที ทำให้ทั้งกลิ่นและรสชาติถูกลดทอนลงไปอย่างรวดเร็ว ความชื้นยังสามารถไปทำลายสารธรรมชาติดี ๆ ที่แฝงอยู่ในเมล็ดกาแฟได้อีกด้วย
5 วิธีเก็บรักษาเมล็ดกาแฟให้สดใหม่ ไม่มีกลิ่นอับ

เก็บไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท
วิธีการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟอย่างมีประสิทธิภาพ วิธีแรกคือ หาภาชนะที่มีความมิดชิด มีฝาปิดสนิท เพื่อป้องกันเมล็ดกาแฟสัมผัสกับอากาศให้ได้มากที่สุด เนื่องจากอากาศหรือออกซิเจนเป็นตัวแปรสำคัญที่เสี่ยงต่อการสูญเสียรสชาติ กลิ่นหอม และคุณภาพของเมล็ดกาแฟ ภาชนะที่ออกแบบมาให้มิดชิด หรือ สร้างมาเพื่อการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟพิเศษ จะช่วยให้เมล็ดกาแฟคงคุณภาพดีเอาไว้ได้นานยิ่งขึ้น
หลีกเลี่ยงการเก็บไว้ในที่ที่มีแสงและอับชื้น
เมื่อมีภาชนะที่มิดชิดและมีฝาปิดแล้ว ควรพิจารณาถึงภาชนะที่ทึบแสงหรือหากเป็นภาชนะโปร่งแสง ก็ควรเก็บไว้ในตู้ที่แสงส่องไม่ถึง เพื่อปกป้องเมล็ดกาแฟจากแสงแดดและแสงไฟ สำคัญที่สุดคือ ควรเลี่ยงการเก็บไว้ในที่อับชื้น เนื่องจากความชื้นจะส่งผลให้เมล็ดกาแฟสูญเสียคุณภาพได้อย่างรวดเร็ว อาจส่งผลให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์กับเมล็ดกาแฟได้
เลี่ยงการเก็บเมล็ดกาแฟไว้ในช่องแช่เย็นปกติ
หลายคนมักเลี่ยงการเก็บกาแฟให้หนีห่างจากความร้อนด้วยการนำไปแช่เย็น ซึ่งการนำเมล็ดกาแฟไปแช่เย็นนั้น จริง ๆ แล้วเป็นวิธีที่ไม่น่าแนะนำสักเท่าไหร่ เนื่องจากในตู้เย็นหรือช่องแช่เย็นปกติเย็นมีความชื้นอยู่มาก อีกทั้งเมล็ดกาแฟสามารถดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ในตู้เย็นทำให้กลิ่นหอมดั้งเดิมเพี้ยนไป และเมื่อนำออกจากตู้เย็นมาโดนอากาศที่ร้อนกว่าข้างนอก จะยิ่งส่งผลให้เมล็ดกาแฟสูญเสียคุณภาพได้อีกด้วย
ควรเก็บเมล็ดกาแฟในช่องแช่แข็ง (Freezer) เท่าที่จำเป็น
แม้การเก็บเมล็ดกาแฟในตู้เย็นจะเป็นสิ่งที่หลายคนไม่แนะนำ แต่อีกทางหนึ่งมีผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวถึงวิธีการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟในช่องแช่แข็งอย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นทางออกที่สามารถทำได้ใน ‘กรณีพิเศษ’ โดยการนำเมล็ดกาแฟใส่บรรจุภัณฑ์สุญญากาศให้มิดชิดก่อน ในปริมาณเพียงเล็กน้อยหรือเท่าที่จำเป็นเท่านั้นจึงจะสามารถนำแช่ช่องฟรีซได้ เมื่อนำออกมาใช้ต้องรอให้น้ำแข็งละลายก่อนจึงจะเปิดภาชนะได้ เพื่อลดการควบแน่นของเมล็ดกาแฟ รวมถึงลดการสูญเสียคุณภาพให้ได้มากที่สุด
ซื้อมาบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม
หากคุณเป็นคนที่มีทางเลือกในการจัดเก็บน้อย หรือที่พักอาศัยไม่เอื้อต่อการจัดเก็บจนไม่อาจหลีกเลี่ยงตัวการทำให้เมล็ดกาแฟเสื่อมคุณภาพได้ วิธีที่ง่ายที่สุด คือ การซื้อเมล็ดกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะต่อการบริโภคแต่ละครั้ง ไม่ซื้อเยอะเกินความจำเป็น วิธีนี้จะช่วยให้คุณมีทางเลือกในการจัดเก็บที่สะดวกและเหมาะสมได้หรือสามารถจัดเก็บด้วยภาชนะที่บรรจุมาพร้อมกับเมล็ดกาแฟในแต่ละครั้งก็จะสะดวกและง่ายกว่า

เพราะ เมล็ดกาแฟคั่ว เป็นวัตถุดิบสำคัญของกาแฟแก้วโปรด ฉะนั้น การจัดเก็บเมล็ดกาแฟอย่างถูกวิธี จึงมีข้อดีที่ช่วยให้เรารักษาคุณภาพเมล็ดกาแฟไว้ได้อย่างสม่ำเสมอ และถึงแม้การเก็บรักษาที่ดีจะต้องคำนึงถึงปัจจัยมากมายอันมีผลต่อการสูญเสียคุณภาพของเมล็ดกาแฟ แต่ปัจจุบันนวัตกรรมของแบรนด์ชั้นนำที่ผลิตกาแฟออกสู่ตลาดก็ล้ำหน้าไปมาก อย่าง Aroma ที่ได้ผลิตเมล็ดกาแฟสดมาในบรรจุภัณฑ์ขนาดพอดี มีลักษณะทึบแสง มีซีลปิดมิดชิด สามารถจัดเก็บได้โดยไม่ต้องพึ่งบรรจุภัณฑ์เสริม ด้วยขนาดที่พอดีและบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาให้รักษาคุณภาพเมล็ดกาแฟอย่างสูงสุดจึงสะดวกต่อการเก็บรักษา ไม่ต้องมากังวลถึงปัจจัยรบกวนทางสิ่งแวดล้อมเพราะแบรนด์คำนึงและคำนวณมาให้แล้ว ทีนี้เราก็สามารถชงกาแฟแก้วโปรดดื่มทั้งร้อนและเย็น โดยไม่ต้องกลัวว่ารสชาติและกลิ่นจะผิดเพี้ยนไป