หากพูดถึงโลกของคนรักชา นอกจากชาเขียวคู่ใจก็ต้องยกให้ ‘ชานม หรือ ชานมไต้หวัน’ ที่ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลในหมู่ชาเลิฟเวอร์ แม้จะถือกำเนิดมาจากประเทศไต้หวัน แต่ก็นับว่าชานมนั้นเป็นเครื่องดื่มทรงอิทธิพลครองใจสายชาเลิฟเวอร์ในไทยอย่างแพร่หลายจริง ๆ จากสถิติในปี 2019 กระแสชานมไข่มุก หรือ ชานมไต้หวันในไทยก็ดังแบบพลุแตก โดยมีอัตราการเติบโตกว่า 3,000% แถมประเทศไทยยังได้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งที่บริโภคชานมมากที่สุดในแถบเอเชีย ณ ขณะนั้น หากคำนวณคร่าว ๆ ก็ราว 6 แก้วต่อคนต่อเดือน และถึงแม้จะผ่านมา 3 – 4 ปีแล้ว กระแสชานมไต้หวันก็ไม่ได้ท่าทีจะจางหายไป ในอุตสาหกรรมยุคใหม่ยังมีแฟรนไชส์เก่า ร้านสาขาใหม่ ทยอยเปิดให้บริการอยู่เรื่อย ๆ
ความแตกต่างระหว่าง 3 ชาตัวแม่ : ชานม ชาไทย ชาเย็น
“ชานม ชาไทย ชาเย็น” หากไม่นับชาเขียว 3 เมนูชาที่ว่ามานี้ นับเป็นตัวแม่แห่งวงการชาเลยก็ว่าได้ หากแต่ทั้ง 3 เมนู ล้วนมีความโดดเด่น เอกลักษณ์เฉพาะและแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเรื่องการใช้วัตถุดิบหลักอย่างใบชาที่ต่างกัน รวมถึงส่วนผสมและองค์ประกอบเสริมในเครื่องดื่มก็ยังต่างกันในหลายจุดอีกด้วย

-
- ชานม หรือ ชานมไต้หวัน (Taiwanese Milk Tea): มักนิยมใช้วัตถุดิบหลักเป็น ใบชาดำ (Black Tea) ซึ่งหากเอ่ยถึงต้นตำรับดั้งเดิม มักเลือกใช้ส่วนประกอบใบชาดำที่ผลิตจากไต้หวันหรือประเทศแถบเอเชียเป็นส่วนใหญ่ สีของตัวชาเมื่อถูกสกัดออกมาจะมีสีน้ำตาลอมแดงและให้ความหอมเฉพาะตัว ซึ่งวิธีชงนั้นก็จะนำเบสชามาผสมกับนมสดรสจืด หรือ ครีมเทียม ก่อนจะเติมรสชาติด้วยนมข้นหวาน เพิ่มเอกลักษณ์ด้วยไข่มุกตามฉบับไต้หวันแท้ ๆ ตามหลักแล้ว ชานมไต้หวันส่วนใหญ่มักมีสีครีมนวลค่อนไปทางเบจ แต่จะมีความครีมเข้มมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณชาและปริมาณส่วนผสม
- ชาไทย (Thai Tea): เครื่องดื่มสไตล์ไทยที่ได้รับอิทธิพลจากการดื่มชาแบบจีน จนวิวัฒนาการมาเป็นชาไทยสีส้มในปัจจุบัน จริงๆแล้วถูกสกัดมาจาก ชาซีลอน (Ceylon Tea) ตามฉบับดั้งเดิม และสามารถสกัดได้จาก ใบชาแดง (Red Tea) สำหรับตัวเลือกในปัจจุบัน เนื่องจากชาซีลอนมีราคาที่ค่อนข้างสูงทีเดียว หากสกัดกับน้ำร้อนออกมาจะได้เป็นเบสชาสีน้ำตาลแดงอมส้มเข้มข้นพิเศษ แล้วจึงนำเบสชาที่ได้ไปผสมกับนมข้นหวานเป็นหลัก สามารถเพิ่มนมข้นจืดเพื่อเบลนด์ส่วนผสมให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น เครื่องดื่มที่ได้ออกมามักมีสีส้มสด ให้รสชาติหวานเข้มข้นชัดเจน
- ชาเย็น (Iced Tea): ชาเย็น หรือ Iced Tea เมนูที่หลายคนมักสับสนกับชาไทยในข้อก่อนหน้า ซึ่งชาเย็นที่เรายกมาพูดกันในวันนี้ ก็คือชาสกัดสีใสที่ได้จาก ใบชาดำ (Black Tea) หากจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพยิ่งขึ้น ให้ลองนึกถึง ชา Earl Grey หรือ English Breakfast แต่เป็นในฉบับชาดื่มเย็น ชาเย็นที่มีเบสการสกัดจากใบชาดำ จะให้ตัวชาที่พร้อมต่อการปรุงเพิ่ม ส่วนมากมักเติมไซรัปทั่วไป ไซรัปผลไม้หรือน้ำผลไม้แท้ ๆ เช่น หากเติมมะนาว ก็จะเป็น Iced Tea Lemonade หรือหากใส่น้ำและเนื้อลูกพีช ก็จะเป็น Peach Iced Tea จะสังเกตได้ว่า ชาเย็นเป็นเครื่องดื่มชาที่เน้นความสดชื่น เบาสบาย คล้ายกับเมนูแนว Light Soft Drink ซึ่งต่างจากทั้งชาไทยและชานมอย่างสิ้นเชิง
อยากชงชานมทานเองที่บ้าน ต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง ?
-
- กระบอกเชค (Shaker): กระบอกเชค หรือ เชคเกอร์ เป็นอุปกรณ์ที่มีไว้สำหรับเขย่าเพื่อให้ส่วนผสมของเครื่องดื่มนั้นเข้ากันได้เป็นอย่างดี มักพบเห็นได้บ่อยตามบาร์หรือร้านกาแฟ มีทั้งแบบสเตนเลส และ พลาสติก ส่วนขนาดของเชคเกอร์ ก็จะมีให้เลือกตั้งแต่ 250 ml. – 750 ml. แต่ขนาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือขนาด 500 ml. – 550 ml. เนื่องจากถนัดมือและเหมาะกับการใช้งานต่อแก้ว
- กระติกน้ำร้อน หรือ กาต้มน้ำ (Boiler / Kettle): การเลือกใช้กระติกน้ำร้อน หรือ กาต้มน้ำแบบไฟฟ้า จะให้ความสะดวกและรวดเร็วกว่ามาก ซึ่งในปัจจุบันมีตัวเลือกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะดีไซน์ คุณสมบัติ และช่วงราคา แถมง่ายต่อการหาซื้อ
- ถุงกรองชา หรือ ที่กรองชา (Tea Filter): เพื่อให้ได้เครื่องดื่มชาที่มีรสชาติดีและไม่ทิ้งตะกอน ถุงกรอง หรือ ที่กรองชา จึงเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นไม่น้อย โดยทั่วไปเราอาจชินกับถุงกรองชาที่ทำจากผ้าขาวบางลักษณะรวงผึ้งพร้อมก้านจับ แต่ในยุคสมัยใหม่ ได้มีนวัตกรรมที่เรียกว่า “ที่กรองชา” เข้ามาเป็นตัวเลือก โดยจะมีลักษณะเป็นตะแกรงกรองสเตนเลสทรงกลม หรือ ตะแกรงสเตนเลสที่มีฝาปิดขนาดเล็ก
- อุปกรณ์ชั่งตวง (Scale / Scoop): การจะได้สัดส่วนที่พอเหมาะพอดี อุปกรณ์ชั่งตวงก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีติดบ้าน ไม่ว่าจะ เครื่องชั่งดิจิทัล (Digital Scale) ช้อนตวง หรือ ถ้วยตวง (Scoop) หรือ จิกเกอร์ (Gigger) *ถ้วยตวงสำหรับเครื่องดื่มโดยเฉพาะ*
- ช้อน และ ช้อนตักชา (Spoon / Bamboo Tea Spoon): ช้อนสำหรับตักและคนส่วนผสม ควรจะเป็นช้อนคันยาว เพื่อง่ายต่อการชงในกระบอกเชค และนอกจากนั้น การมีช้อนตักชาแยกต่างหาก จะทำให้เรารักษาคุณภาพชาได้ดียิ่งขึ้น ถึงแม้ต้นฉบับจะใช้ ช้อนไม้ไผ่ (Bamboo Tea Spoon) แต่ในปัจจุบันสามารถหาซื้อตัวเลือกทดแทนในราคาที่ย่อมเยาและสะดวกกว่าได้

วิธีชง ‘ชานม’ ให้อร่อยเหมือนร้านดัง
วัตถุดิบ (สำหรับสูตร 16 – 22 ออนซ์)
- ใบชาดำ หรือ ใบชาไต้หวัน
- น้ำร้อน
- น้ำตาลทราย หรือ นมข้นหวาน
- ครีมเทียม
- นมสด
- น้ำแข็ง
- ไข่มุก (ตามชอบ)
วิธีทำ
- เริ่มด้วยการทำเบสชา ให้นำใบชา (ชาดำ หรือ ชาไต้หวันตามชอบ) ในปริมาณ 10 กรัม มาใส่ที่กรองชา และใส่ทั้งหมดลงไปในแก้วสำหรับชงหรือเชคเกอร์
- จากนั้นให้เทน้ำร้อน 175 ml. ลงไป แช่ทิ้งไว้ 10 นาที เมื่อครบเวลาให้นำที่กรองชาออก ก็จะได้เบสชา เพื่อนำไปปรุงรสชาติเพิ่ม
- เติมความหวาน เริ่มด้วยการใส่น้ำตาลหรือนมข้นหวาน 3 ช้อนชา ตามด้วยครีมเทียม 2 ช้อนโต๊ะและนมสด 60 ml. จากนั้นให้คนส่วนผสมให้เข้ากันด้วยช้อนก้านยาว
- หากมีแก้วเชคเกอร์ ให้นำน้ำแข็งใส่ลงไปจากนั้นปิดฝาและเขย่าไปมา 10 – 15 ครั้ง ก็จะได้ชานมไต้หวันพร้อมเสิร์ฟ ออนท็อปด้วยไข่มุกตามชอบ
- แต่หากไม่มีแก้วเชค เมื่อผสมความหวานให้เข้ากันแล้ว ให้เตรียมแก้วสำหรับดื่ม เติมไข่มุกและน้ำแข็ง แล้วจึงเทชานมลงไป ก็จะได้ชานมพร้อมเสิร์ฟเช่นเดียวกัน
แนะนำอ่านต่อ : 10 สูตรกาแฟ ยอดฮิต ติดใจชาวคาเฟ่ฮอปเปอร์
3 วัตถุดิบชูโรง เคล็ดลับความอร่อยของชานมไต้หวัน
- ใบชา (Tea Leaves): แน่นอนว่าหัวใจสำคัญของชานม ก็ต้องอยู่ที่วัตถุดิบหลักอย่าง ‘ใบชา’ การเลือกซื้อวัตถุดิบในเกรดดีไปจนถึงพรีเมียม ก็จะช่วยให้เราได้ลิ้มรสชาติความหอมและรสชาติเฉพาะตัว แม้บางครั้งแค่เพียงใบชาดำที่มาจากกรรมวิธีบ่มใบชาที่ต่างกัน ก็สามารถให้กลิ่นและรสสัมผัสที่ต่างกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับเมนูชานมไต้หวัน การเลือกใบชาดำสไตล์ไต้หวัน ก็จะยิ่งให้รสชาติตามฉบับไต้หวันดั้งเดิม
- ครีมเทียม (Non-Dairy Creamer): นอกจากความมันที่ได้จากนมข้นหวาน การเติมครีมเทียมลงไปในปริมาณที่พอดี จะช่วยให้ชานมแก้วโปรดมีความหวานมันขึ้นได้แบบทวีคูณ แถมยังช่วยชูความกลมกล่อมให้โดดเด่นขึ้นมา เป็นวัตถุดิบจะมีก็ได้จะขาดก็ไม่เป็นไร แต่ก็นับว่าเป็นตัวชูโรงในเมนูชานมอย่างแท้จริง
- นมข้นจืด (Unsweetened Milk): อีกหนึ่งวัตถุดิบชูโรง มีบทบาทในการผสมผสานความกลมกล่อมที่สำคัญไม่แพ้ครีมเทียม เพราะนมข้นจืด มักให้ความหอมและหวานที่มากกว่านมสดทั่วไป การเลือกใช้วัตถุดิบชูโรงเหล่านี้ จะช่วยเสริมความโดดเด่นของชาและความหวานนุ่มของส่วนผสมอื่นๆให้ลงตัวอย่างถึงที่สุด
ก็นับว่า ชานมไต้หวัน อยู่ครองใจคนไทยมายาวนานจริงๆ นั่นก็เพราะความโดดเด่นของตัวชา ความอร่อยหอมหวานที่ได้จากกรรมวิธีการชง รวมถึงองค์ประกอบสำคัญอย่าง ‘ไข่มุก’ ที่ช่วยสร้างความโดดเด่นให้กับชานมได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ วัตถุดิบและวิธีการชงก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก เรียกได้ว่าอ่านจบก็สามารถเข้าออนไลน์สโตร์สั่งซื้ออุปกรณ์และวัตถุดิบในราคาย่อมเยา มาชงดื่มเองได้แล้วง่ายๆที่บ้าน สะดวก ครบ อร่อย !