ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจกาแฟ เป็นธุรกิจที่เฟื่องฟูเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเดินทางไปจังหวัดไหนหรือเขตใด ย่อมต้องเจอร้านกาแฟ คาเฟ่เปิดให้บริการสักแห่ง แม้จะมีกลุ่มคนจำนวนมากสนใจอยากเปิดคาเฟ่ แต่ก็ใช่ว่าทุกร้านจะไปได้สวย บางร้านถึงกับต้องปิดตัวลงภายในไม่กี่เดือนหลังเปิดทำการ ประกอบกับในช่วงโรคระบาดที่มีมาตรการล็อกดาวน์ ผู้คนกักตัวอยู่บ้านมากขึ้นและพฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนไป ส่งผลให้ร้านกาแฟที่ไม่สามารถปรับตัวได้ ต้องยุติการดำเนินธุรกิจไปเช่นกัน
ด้วยเหตุที่กล่าวไปข้างต้น ทำให้ใครหลายคนที่อยากเป็นเจ้าของร้านคาเฟ่สงสัยว่า “จะทำธุรกิจกาแฟอย่างไรให้ยืนยาว มีวิธีไหนบ้าง?” ซึ่งก็มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการอยู่รอดของธุรกิจ มาเรียนรู้ถึงปัจจัยต่างๆ ในบทความนี้กันเลย
5 ปัจจัยสำคัญ ส่งผลให้ธุรกิจกาแฟยั่งยืนกว่าใคร
1. คุณภาพของกาแฟ

แน่นอนว่าเมื่อเป็นร้านกาแฟ คาเฟ่ เครื่องดื่มหลักในเมนูก็ต้องเป็น “กาแฟ” อยู่แล้ว แต่บางครั้งเจ้าของธุรกิจที่ขาดประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญในเรื่องของกาแฟ ทำให้ชงกาแฟได้ไม่ดีเท่าที่ควร
เพราะในการชงกาแฟหนึ่งแก้วนั้นมีหลายองค์ประกอบที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดกาแฟที่ต้องเลือกให้ถูกสายพันธุ์ (อาราบิก้า โรบัสต้า หรือผสมกัน) รวมไปถึงระดับการคั่ว (Roast Level) ต่อมาก็ต้องเลือกใช้เครื่องชงกาแฟที่มีคุณภาพ มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ร้านกาแฟ อาทิ การสตีมนม ระบบควบคุมอุณหภูมิน้ำ จำนวนหัวชง เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงวัตถุดิบอื่นๆ เช่น ผลิตภัณฑ์นม ไซรัป และท็อปปิ้งต่างๆ
ส่วนท่านใดที่วางแผนจะทำร้านกาแฟที่เสิร์ฟ Specailty Coffee ก็ควรใส่ใจตั้งแต่แหล่งเพาะปลูกกาแฟตลอดจนถึงทุกขั้นตอนการชง หากต้องการสร้าง Signature Menu ของตัวเอง ก็ควรเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบให้พร้อมด้วย เพื่อคุณภาพของกาแฟที่ดีที่สุด ตรงใจคอกาแฟจนต้องติดใจและกลับมาซื้อซ้ำอีกเรื่อยๆ นั่นเอง
2. ความหลากหลายของเมนู
เชื่อว่าเมื่อเป็นร้านกาแฟ คาเฟ่แล้ว ก็คงไม่ได้มีแค่เมนูกาแฟอย่างเดียว เพราะอาจทำให้ลูกค้าเบื่อหน่ายและไม่สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ที่อยากดื่มเมนูอื่นแทน อาทิ โกโก้ ชาเขียว นมเย็น รวมไปถึงเมนูของหวาน เช่น เค้ก คุ้กกี้ ขนมปัง ทาร์ต ฯลฯ
การมีเมนูที่หลากหลายจะช่วยให้ร้านค้าสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายได้ดีขึ้น รวมไปถึงดึงดูดให้ลูกค้าใหม่ๆ ให้เข้ามาอีกด้วย อีกหนึ่งสิ่งที่ร้านกาแฟทำได้ ก็คือการหมุนเวียนหรือเปลี่ยนเมนูขนมต่างๆ ให้แตกต่างกันในแต่ละวัน ก็จะสร้างสีสันให้ลูกค้าได้ไม่น้อยและทำให้ธุรกิจกาแฟไปต่อได้อย่างราบรื่นจากการที่มีลูกค้าหลากหลายแวะเวียนเข้ามานั่นเอง
3. ทำเลและบรรยากาศที่มีเอกลักษณ์
ในยุคนี้ คอกาแฟไม่ได้ต้องการไปที่ร้านเพียงเพราะต้องการดื่มกาแฟเท่านั้น แต่ลูกค้าหลายๆ คนต้องการที่จะมาชมบรรยากาศ หามุมสงบเพื่อนั่งทำงาน หรือต้องการมาถ่ายรูปเก๋ๆ โพสต์ลงโซเชียลสักหน่อย พูดง่ายๆ ก็คือร้านกาแฟเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ใครหลายคนไปแล้ว
การที่ร้านกาแฟจะยั่งยืนได้นั้น สิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้คือ “ทำเลร้านกาแฟ” ที่ควรตั้งอยู่ในที่ที่เข้าถึงง่าย เดินทางสะดวก ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและระบบขนส่งสาธารณะ เพราะหากเข้าถึงได้ยากผู้คนก็อาจจะตัดสินใจไปร้านอื่นที่สะดวกกว่าแทน
นอกจากนี้ ควรมีบรรยากาศที่สามารถทำให้ลูกค้าดื่มด่ำได้แบบไม่จำเจ อาจจะเป็นทิวทัศน์ธรรมชาติ การตกแต่งร้านที่ไม่เหมือนใคร และมีพื้นที่ให้ลูกค้าสามารถถ่ายรูป ประกอบกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันให้ลูกค้านั่งชิลล์ได้ตลอดวัน
4. มาตรฐานที่สม่ำเสมอ

ความพึงพอใจของลูกค้าคือสิ่งสำคัญต่อธุรกิจกาแฟ ซึ่งเจ้าของร้านก็ควรสร้างและรักษามาตรฐานที่สม่ำเสมอเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติของกาแฟและวัตถุดิบต่างๆ ที่หากเปลี่ยนแม้แต่นิดเดียวก็อาจจะทำให้ลูกค้าเปลี่ยนใจได้ รวมไปถึงคุณภาพของการบริการและพนักงาน ว่าต้องเข้าใจเรื่องกาแฟ รู้จักรสชาติ รู้จักการคัดเลือกเมล็ดกาแฟ รวมถึงงานอื่นๆ ภายในร้านกาแฟ เสริมสร้างการบริการให้ออกมาดีที่สุด ก็จะทำให้ลูกค้าพึงพอใจและกลับมาใช้บริการอย่างสม่ำเสมอ
5. การปรับตัวให้ทันเทรนด์กาแฟ
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พฤติกรรมและเทรนด์ต่างๆ แปรผันตามไปด้วย ธุรกิจกาแฟจึงต้องปรับตัวให้ทันเทรนด์ผู้บริโภคเสมอ เพื่อที่จะคิดวิธีตอบโจทย์ให้ทันความต้องการของคอกาแฟได้นั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น เทรนด์ “Specialty Coffee” ที่เป็นกาแฟแบบพิเศษ การสั่งกาแฟ Delivery ส่งถึงหน้าบ้าน หรือจะเป็นเทรนด์ “Ready-To-Drink Coffee” อย่างกาแฟสกัดเย็น (Cold Brew) ที่ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งร้านกาแฟก็สามารถที่จะทำผลิตภัณฑ์หรือการบริการดังกล่าวออกมาจำหน่ายได้เช่นกัน
ทั้ง 5 ข้อที่ Aroma ได้แนะนำไปนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ร้านกาแฟ คาเฟ่ได้ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ไปต่อได้ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง
ส่วนเจ้าของธุรกิจกาแฟท่านใดที่กำลังค้นหาวัตถุดิบและอุปกรณ์ร้านกาแฟคุณภาพ Aroma ก็พร้อมที่จะให้บริการ
WE ARE AROMA
Aroma Group คือผู้นำธุรกิจกาแฟคั่วบด และเครื่องดื่มแบบครบวงจร ที่มีความเชี่ยวชาญ และสั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี ธุรกิจของเราครอบคลุมตลอดต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การคัดสรรและจัดจำหน่ายวัตถุดิบชั้นดี การจำหน่ายเครื่องชงกาแฟ และอุปกรณ์คุณภาพสูง สถาบันสอนพัฒนาธุรกิจร้านกาแฟ รวมถึงธุรกิจร้านกาแฟ จวบจนวันนี้ Aroma Group ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากมายทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมชั้นนำ ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านเบเกอรี่ ทั้งจากตัวแทนจำหน่ายสินค้าของ Aroma กว่า 2,000 ราย ร้านค้าปลีกกว่า 7,000 ร้านค้า และ Aroma Shop กว่า 30 ร้าน พร้อมเสียงตอบรับที่มากขึ้นทุกวัน