กาแฟโคลอมเบีย
มรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดต่อเนื่องยาวนานกว่า
300 ปี

หากจะให้พูดถึงกาแฟที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและรสชาติของโลก คงมีกาแฟจาก 34 ประเทศในดวงใจของคนส่วนใหญ่  และหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของกาแฟโคลอมเบียอยู่แน่ๆ

ว่ากันว่าหากเอธิโอเปียคือที่หนึ่งด้านกาแฟแห่งทวีปแอฟริกา โคลอมเบียก็ถือเป็นประเทศฝั่งอเมริกาใต้ที่ไม่อาจมองข้ามเรื่องกาแฟไปได้ เพราะมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาเกี่ยวกับกาแฟมายาวนานกว่า 300 ปี ตั้งแต่ยุคอาณานิคมของสเปนในศตวรรษที่ 16 ทั้งยังมีทฤษฎีมากมายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของกาแฟในโคลอมเบียเล่าว่ามาจากเกาะเฮติในทะเลแคริบเบียน และจากเอลซัลวาดอร์ในอเมริกากลางในปี ค.ศ.1808 โดยมีนักบวชเป็นผู้นำเมล็ดกาแฟเข้ามายังโคลอมเบียเป็นครั้งแรก

จากนั้นกาแฟก็แพร่หลายไปทั่วทั้งประเทศ จนกลายเป็นผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่อันดับสองรองจากบราซิล ทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ จากการพัฒนาของเกษตรกรผู้ปลูก ผู้ผลิต และการสนับสนุนของรัฐบาล ที่มีการประกาศเขตปลูกกาแฟเอาไว้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศที่เรียกว่าเขตสามเหลี่ยมกาแฟ Coffee Triangle หรือ Coffee Belt ในเมืองคัลดาส, ริซารัลดา และควินดิโอ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตกาแฟที่ดีที่สุดในโลก

ความสำคัญของกาแฟในโคลอมเบีย ยังการันตีได้จากประกาศของยูเนสโก้ในปี ค.ศ. 2011 ให้พื้นที่ Cordillera de los Andes ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของประเทศเป็น Coffee Cultural Landscape of Colombia (CCLC) เพราะเป็นพื้นที่ที่มีไร่กาแฟเก่าแก่ ซึ่งมีการปลูกมานานนับร้อยปี จนกลายเป็นอัตลักษณ์แห่งวิถีชีวิต เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ส่งต่อมาถึงยุคปัจจุบัน

ทำไมกาแฟโคลอมเบียถึงมีคุณภาพ

โคลอมเบียมีพื้นที่ปลูกกาแฟประมาณ 800,000 ไร่ ซึ่งถือว่ามากกว่าในประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งพื้นที่การปลูกกาแฟจะอยู่ที่ความสูง 1,300 – 2,200 เมตร จากระดับน้ำทะเล สายพันธุ์ของกาแฟส่วนใหญ่ที่พบได้แก่ Caturra Castillo  และ Typica ซึ่งช่วงฤดูเก็บเกี่ยวหลักคือช่วงเดือนกันยายน – เดือนธันวาคม ส่วนเดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม จะเป็นผลผลิต Mitaca  

ร่ำลือกันว่ากาแฟอาริกาของโคลอมเบียนั้นขึ้นชื่อเรื่องกลิ่นหอม ความเป็นกรด (Acidity) ที่ไม่สูงมาก รสชาติจึงไม่ได้เปรี้ยวจัด แต่แฝงด้วยความเปรี้ยวอย่างสดใส กาแฟมีความสะอาด ให้กลิ่นของกาแฟมีมิติที่หลากหลาแต่มีเอกลักษณ์และดื่มง่าย

  1. 1. ภูมิอากาศและภูมิประเทศ

โคลอมเบียมีภูมิประเทศที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกาแฟ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาเขตร้อนที่มีฝนตกชุกในปริมาณที่เหมาะสม และยังมีปริมาณแสงแดดที่พอเหมาะกับสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย จนมีคำกล่าวที่ว่า “โคลอมเบียได้รับพรจากพระเจ้า คือความหลากหลายทางชีวภาพหรือระบบนิเวศน์ที่น่าทึ่ง และถ้ามีสิ่งใดที่เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั่นก็คือสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศที่เหมาะสำหรับปลูกกาแฟที่ดีที่สุดของโลก”

  1. 2. กระบวนการปลูกและเก็บเกี่ยว

เกษตรกรมีวิธีการปลูกและเก็บเมล็ดกาแฟที่ดีและสะอาด กาแฟที่ดีที่สุดถูกปลูกบนเนินเขาสูงชันที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้และต้นกล้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่คอยให้ร่มเงาให้กับต้นกาแฟและผลเชอร์รี เกษตรกรจะเก็บเมล็ดเชอร์รีด้วยมือ (HandPick) ทุกเมล็ด

แหล่งปลูกกาแฟในโคลัมเบีย

  • ภาคเหนือ
    ตอนเหนือของโคลอมเบียจะมีไร่กาแฟตั้งอยู่ที่ Santander, Norte de Santander, La Guajira, Magdalena และ Cesar กาแฟจากแหล่งปลูกทางตอนเหนือจะได้รับแสงแดดที่มากกว่า จึงต้องปลูกในร่มเงา ผลผลิตผลิตกาแฟที่ได้จะมีความเป็นกรดที่น้อยกว่า แต่มีบอดี้ที่มากกว่า
  • ภาคเหนือตอนกลางและภาคใต้ตอนกลาง
    พบแหล่งปลูกในพื้นที่ทางใต้ของ Antioquia, Boyacá, Caldas, Chocó, Risaralda, Quindío และทางเหนือของ Valle del Cauca, Cundinamarca, Tolima ซึ่ง Antioquia ถือเป็นแหล่งผลิตกาแฟที่ใหญ่เป็นอันดับสองในโคลอมเบีย และ Tolima เป็นอันดับสาม
  • ภาคใต้
    พื้นที่ทางตอนใต้ของโคลอมเบียตั้งอยู่ใกล้กับเส้นศูนย์สูตร เป็นแหล่งปลูกที่ผลิตกาแฟที่มีความเป็นกรดสูง และมีโปรไฟล์ที่โดดเด่น พบแหล่งปลูกที่ Nariño, Cauca และ Huila ซึ่ง Nariño และ Huila ถือเป็นแหล่งผลิตกาแฟอันดับหนึ่งของประเทศ โดยเฉพาะกาแฟที่ปลูกใน Huila จะมีความโดดเด่นที่รสชาติของผลไม้และคาราเมล มีรสเปรี้ยวหวาน และมีกลิ่นหอมเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์
  • ภาคตะวันออก

เป็นพื้นที่ปลูกกาแฟที่น้อยที่สุดของโคลอมเบีย พบแหล่งปลูกที่ Arauca, Casanare, Meta และ Caquetá  

Colombia COE 2021
คุณภาพของกาแฟจากโคลอมเบียการันตีได้จากการผ่านมาตรฐาน COE เป็น Colombia COE 2021 ที่มีได้คะแนนตั้งแต่ Rank 1a ไปจนถึง Rank 23 มีทั้งกาแฟอาราบิกาสายพันธุ์ Gesha Castillo Bourbon  Bourbon Rosado Chiroso Caturra แล Tabi ที่ Process ในกระบวนการต่างๆ อย่างมีคุณภาพ ซึ่งทาง Aroma ก็ได้นำกาแฟมาตรฐาน Colombia COE 2021 มาให้คอกาแฟชาวไทยได้ลิ้มลองถึง 6 ตัว ได้แก่ Rank 1a 1b 15 17 21 และ 23

  • Rank 1a และ 1b มี cupping score ที่ 90.61 คะแนน
    กาแฟอาราบิกาสายพันธุ์ Gesha ที่แหล่งปลูก Nariño จากฟาร์ม Obraje แปรรูปด้วย Washed Process โดย Pablo Andrés Guerrero Pérez สถาปนิกผู้เริ่มต้นปลูกกาแฟในปี ค.ศ. 2000 ด้วยกระบวนการที่เข้มงวดตั้งแต่การเก็บผลเชอร์รี ทั้งยังควบคุมกระบวนการหมักให้ได้โปรไฟล์ที่ต้องการ ทำให้ได้กาแฟ Gesha ที่มีรสชาติซับซ้อนของกลิ่นดอกไม้ และหอมเข้มข้นอย่างสมดุล
  • Rank 15 มี cupping score ที่ 87.82 คะแนน
    กาแฟอาราบิกาสายพันธุ์ Chiroso ที่แหล่งปลูก Antioquia จากฟาร์ม La Falda แปรรูปด้วย Washed Process โดย Jose Arcadio Caso ที่มุ่งพัฒนากาแฟอาราบิกาสายพันธุ์ Bourbon Chiroso และ Caturra Chiroso มาต่อเนื่องนานกว่า 10 ปี โดยกาแฟที่ได้คะแนนใน Rank นี้ เขาใช้เวลาในกระบวนการหมักนาน 8 วัน ทำให้ได้รสชาติที่หลากหลายของช็อกโกแลต น้ำผึ้ง และส้มที่ไม่เหมือนใคร
  • Rank 17 มี cupping score ที่ 87.68 คะแนน
    กาแฟอาราบิกาสายพันธุ์ Bourbon ที่แหล่งปลูก Nariño จากฟาร์ม Las Palmas แปรรูปด้วย Natural Process โดย Adriana Patricia Mora Anacona ที่ได้นำกาแฟอาราบิกาสายพันธุ์ Bourbon, Gesha, SL28 และ Caturra เข้ามาปลูกในไร่เมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา พร้อมกับแนวปฏิบัติใหม่ๆ ให้สามารถสร้างความหลากหลายให้กับคุณภาพของฟาร์มได้ สำหรับกาแฟใน Rank นี้ มีรสชาติหวานผสานความซับซ้อนของโกโก้ แบล็กเบอร์รี ชาเขียว ถั่ว และวานิลลา
  • Rank 21 มี cupping score ที่ 87.36 คะแนน
    กาแฟอาราบิกาสายพันธุ์ Bourbon Rosado ที่แหล่งปลูก Nariño จากฟาร์ม La Carolina แปรรูปด้วย Natural Anaerobic โดย Cesar Augusto Ospina วิศวกรโยธาและอิเล็กทรอนิกส์ที่เคยทำงานเกี่ยวกับระบบการล้างและการอบแห้งให้กับฟาร์มต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจหันมาเป็นเกษตรกรปลูกกาแฟในไร่ของพี่ชาย โดยได้เดินทางไปไร่กาแฟในบราซิลเพื่อเรียนรู้วิธีการต่างๆ
    สำหรับกาแฟที่ได้คะแนนใน
    Rank นี้ เขาใส่ใจตั้งแต่กระบวนการเก็บผลเชอร์รี ขั้นตอนการล้างก่อนจะนำไปตากให้แห้ง และมีการควบคุมอุณหภูมิในการหมัก จนได้กาแฟที่มีคาแร็กเตอร์ของคาราเมล ช็อกโกแลต ถั่ว เครื่องเทศ และชา
  • Rank 23 มี cupping score ที่ 87.11 คะแนน
    กาแฟอาราบิกาสายพันธุ์ Bourbon ที่แหล่งปลูก Nariño จากฟาร์ม La Esperanza แปรรูปด้วย Natural Anaerobic โดย Gildardo Arias Mamian ที่ส่งกาแฟเข้าประกวดเป็นแรก โดยเริ่มปลูกและผลิตกาแฟเมื่อ 6 ปีที่แล้ว สายพันธุ์ที่ปลูกได้แก่ Gesha, Pink Bourbon และ Caturra ซึ่งตัวที่ได้คะแนนใน Rank นี้ นั้นคือ Bourbon ที่ผ่านกระบวนการหมักนานถึง 40 ชั่วโมง และตากให้แห้ง 25 วัน ทำให้ได้กาแฟที่มีความหวานและแฝงไปด้วยรสชาติของแบล็กเชอร์รี แบล็กเคอร์แรนต์ ชาเขียว และพลัม

————————————–

อยากสัมผัสรสชาติกาแฟคุณภาพระดับโลกจากโคลอมเบีย หรือสอบถามข้อมูลต่างๆ
สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ LINE@ >> https://lin.ee/Fnrj3g9

ข้อมูล: https://whc.unesco.org/en/list/1121/
https://theculturetrip.com/southamerica/colombia/articles/aguidetocolombiascoffeetriangle/
https://www.cafedecolombia.com/
https://www.facebook.com/n.coffee88/posts/344266459818389/
https://www.easycraftcoffee.com/
https://perfectdailygrind.com/2017/10/aroastersguidetothecoffeeproducingregionsofcolombia/