คอกาแฟทุกคนคงทราบกันดีว่า การทำกาแฟสดอร่อยๆ สักหนึ่งแก้วนั้นต้องใส่ใจทั้งวิธีการทำและอุปกรณ์ร้านกาแฟต่างๆ เพื่อให้รสชาติออกมาเข้มข้น กลิ่นหอม และคงรสสัมผัสที่สม่ำเสมอ ฉะนั้น การดูแล “อุปกรณ์ร้านกาแฟ” จึงเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจอย่างมากสำหรับร้านกาแฟ คาเฟ่ต่างๆ รวมไปถึงผู้ที่มีเครื่องชงกาแฟเป็นของตัวเองอีกด้วย
ในบทความนี้ Aroma จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับวิธีการดูแลอุปกรณ์ต่างๆ ในร้านกาแฟอย่างถูกต้อง เพื่อยืดอายุการใช้งานที่ยืนยาว ไม่ต้องลงทุนซื้ออะไหล่หรือเปลี่ยนอุปกรณ์บ่อยๆ
การดูแลเครื่องชงกาแฟ (Espresso Machine)
เมื่อพูดถึงร้านกาแฟหรือคาเฟ่ สิ่งแรกที่ผู้คนส่วนใหญ่มักนึกถึงก็คงหนีไม่พ้น “เครื่องชงกาแฟ” โดยเฉพาะร้านที่มีเครื่องเอสเพรสโซ่สำหรับชงกาแฟสด เพราะเป็นอุปกรณ์สุดสำคัญที่จะกำหนดคุณภาพของกาแฟนั่นเอง ทำให้การดูแลเครื่องชงกาแฟสดเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ยิ่งชงกาแฟมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องดูแลให้มากเท่านั้น เพื่อยืดอายุการใช้งานและคงคุณภาพของกาแฟไว้ให้คงเดิม มาดูวิธีการดูแลอุปกรณ์ร้านกาแฟชิ้นนี้กันเลย:
1. ล้างหัวกรุ๊ป (Group Head)
หลังจากใช้งานเครื่องชงกาแฟมาทั้งวัน ส่วนแรกที่ต้องทำความสะอาดคือ “หัวกรุ๊ป” ที่มักจะมีเศษกาแฟติดอยู่ เริ่มจากการกดปุ่มปล่อยน้ำออกจากหัวโดยไม่ต้องใส่ก้านอัด เพื่อล้างเศษและคราบต่างๆ จากนั้นให้ใช้แปรงสำหรับขัดหัวชงทำความสะอาดตามซอกหรือร่องยางด้านในที่มักมีกากกาแฟติดอยู่เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น แต่อย่าลืมล้างระบบท่อน้ำข้างในหัวกรุ๊ปด้วย ตามขั้นตอนต่อไป
2. ล้างภายในท่อหัวสตรีม
การทำความสะอาดท่อระบายแรงดันเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่ทุกวัน เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่าภายในท่อระบายแรงดันนั้นมีเศษกาแฟตกค้างอยู่หรือไม่ ด้วยการใช้เทคนิค “Back Flush” หรือ “ล้างระบบไหลย้อนกลับ” โดยการใส่ Blind Filter แบบหัวตันกับด้ามชงกาแฟ ให้เทผงล้างหัวชงลงไปประมาณครึ่งช้อนชา แล้วอัดด้ามชงเข้าไปที่หัวชง
ต่อมาให้กดปุ่มทำงานทิ้งไว้ประมาณ 5 – 10 วินาที แล้วจึงกดปิดน้ำ ภายในจะเกิดแรงดันที่จะผลักน้ำส่วนเกินพร้อมเศษกาแฟที่หลงเหลือออกมา ให้ทำแบบนี้กับทุกหัวชงและทำซ้ำได้จนกว่าหัวกรุ๊ปจะสะอาดหมดจด ซึ่งควรทำความสะอาดแบบนี้ทุกวันหลังเสร็จการใช้งาน
3. ล้างก้านสตรีมนม (Steam Wand)

ก้านสตรีมนมเป็นอีกส่วนหนึ่งของเครื่องชงกาแฟที่ละเลยไปไม่ได้ เนื่องจากหลังใช้งานอาจมีคราบนมติดอยู่ภายใน ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ นมก็อาจจะบูดหรือเสีย ส่งกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้นั่นเอง
หากไม่ได้ใช้งานหรือใช้งานน้อย ขั้นตอนแรกให้ทำการเปิดสวิตช์หรือวาล์วเป่าฟองนมทิ้งไว้จนไอน้ำออกจนหมด จากนั้นให้ใช้ผ้าสะอาดเช็ดทำความสะอาดก็เป็นอันเสร็จสิ้น
ในกรณีที่ใช้งานเยอะหรือมีคราบนมติดอยู่มาก แนะนำให้นำเหยือกน้ำ (Pitcher) ใส่น้ำเย็นประมาณ 1 ส่วน 3 ของเหยือก และนำก้านสตรีมนมจุ่มลงไป จากนั้นเปิดไอน้ำทิ้งไว้ประมาณ 3 – 5 วินาทีแล้วหยุด ให้ทำซ้ำจนกว่าคราบนมที่อาจติดอยู่ภายในก้านสตรีมนมจะออกจนหมด หรือจนกว่าน้ำอุ่นขึ้น แค่นี้ภายในท่อก็จะไม่มีคราบนมติดค้างแล้ว
4. ทำความสะอาดด้ามชงกาแฟ (Basket)
ด้ามชงกาแฟ (บางคนอาจจะเรียกว่าก้านอัดกาแฟ) เป็นส่วนที่สัมผัสกับผงกาแฟมากที่สุด ดังนั้นจึงอาจมีเศษหรือคราบติดแน่น ดังนั้นจึงต้องทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
หลังใช้งานทันที ให้ทำความสะอาดโดยใช้น้ำยาล้างจานได้ตามปกติและเช็ดให้แห้ง เท่านี้ด้ามชงกาแฟก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ และทุกๆ สัปดาห์ควรที่จะนำด้ามชงกาแฟ มาแช่น้ำร้อนที่ผสมผงล้างหัวชง ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15 – 30 นาที แล้วล้างน้ำเปล่าและใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง
5. ล้างถาดและตะแกรงกรองน้ำ

ส่วนหนึ่งที่หลายคนมักมองข้ามไปคือถาดกรองน้ำหรือตะแกรง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเช็ดทำความสะอาดแค่ส่วนด้านบนเท่านั้น ซึ่งภายในอาจมีคราบหรือเศษกาแฟหลงเหลืออยู่ที่อาจส่งกลิ่นเหม็นได้หากทิ้งไว้นานๆ สิ่งที่ควรทำก็คือถอดถาดกรองน้ำออก นำไปล้างด้วยน้ำยาล้างจานทั้งด้านนอกและด้านใน เช็ดให้แห้งสนิทแล้วนำใส่กลับเข้าไปที่เดิมให้เรียบร้อยแล้ว
อุปกรณ์ร้านกาแฟอื่นๆ ก็ต้องใส่ใจ
นอกจากเครื่องชงแล้ว อุปกรณ์ร้านกาแฟอื่นๆ ก็ต้องเอาใจใส่ดูแลเช่นกัน เพื่อให้กระบวนการชงกาแฟเป็นไปได้อย่างราบรื่น และสามารถคงรสชาติที่สม่ำเสมอได้ เพราะอย่าลืมว่าหากรสชาติกาแฟเปลี่ยน ก็อาจจะทำให้ลูกค้าขาประจำหนีหายไปได้นั่นเอง
- เครื่องบดกาแฟ – นำเมล็ดออกจาก Hopper ให้หมด จากนั้นปัดผงกาแฟที่เหลือใน Doser ออก แล้วจึงเช็ด Hopper ด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ แล้วเช็ดด้วยผ้าแห้งอีกรอบ ก่อนประกอบกลับเข้าไปที่ตัวเครื่อง ในรอบสัปดาห์ควรทำความสะอาดเฟืองบดด้านในด้วย เพื่อป้องกันการเกิดสนิม
- อุปกรณ์ร้านกาแฟอื่นๆ – เช่น เหยือกสำหรับสตรีมนม เทอร์โมมิเตอร์ ช้อนตวง แทมเปอร์ หรือแม้แต่ Deep Knock Box (ตัวเคาะกากกาแฟ) ก็ตาม ต้องล้างทำความสะอาดทุกวัน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นอุปกรณ์ร้านกาแฟที่ทุกคนควรดูแลเอาใจใส่ โดยเฉพาะร้านกาแฟหรือคาเฟ่ เพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพและรสชาติของกาแฟได้ นอกจากนี้อุปกรณ์ที่มีความสะอาดจะสามารถสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาได้ดีเลยทีเดียว
ส่วนใครที่อยากมีธุรกิจกาแฟเป็นของตัวเองแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ซื้ออุปกรณ์ร้านกาแฟที่ไหน สามารถเข้ามาปรึกษา Aroma ได้เลย
WE ARE AROMA
Aroma Group คือผู้นำธุรกิจกาแฟคั่วบด และเครื่องดื่มแบบครบวงจร ที่มีความเชี่ยวชาญ และสั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี ธุรกิจของเราครอบคลุมตลอดต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การคัดสรรและจัดจำหน่ายวัตถุดิบชั้นดี การจำหน่ายเครื่องชงกาแฟ และอุปกรณ์คุณภาพสูง สถาบันสอนพัฒนาธุรกิจร้านกาแฟ รวมถึงธุรกิจร้านกาแฟ จวบจนวันนี้ Aroma Group ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากมายทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมชั้นนำ ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านเบเกอรี่ ทั้งจากตัวแทนจำหน่ายสินค้าของ Aroma กว่า 2,000 ราย ร้านค้าปลีกกว่า 7,000 ร้านค้า และ Aroma Shop กว่า 30 ร้าน พร้อมเสียงตอบรับที่มากขึ้นทุกวัน