ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจกาแฟได้เติบโตขึ้นมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนหรือผู้ที่อยากทำธุรกิจก็ต่างเข้ามาลงทุนจนเกิดเป็นร้านกาแฟและคาเฟ่น้อยใหญ่มากมาย กระจายไปยังทุกจังหวัดของประเทศไทย ทำให้การแข่งขันในตลาดสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้จะเป็นอย่างนั้น แต่ธุรกิจร้านกาแฟก็ยังคงมีที่ว่างให้เติบโตได้เรื่อยๆ ยิ่งหากเจ้าของรู้จักการลงทุน พิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อร้านกาแฟ คาเฟ่

ร้านกาแฟหน้าใหม่ต้องรู้ต้องเรื่องอะไรบ้าง? เพื่อแข่งขัน สร้างการเติบโต และทำให้ธุรกิจอยู่ได้ในตลาดระยะยาว มาหาคำตอบกันแบบเข้าใจง่ายๆ ในบทความนี้

5 เรื่องที่ร้านกาแฟหน้าใหม่ต้องรู้

1. ความสัมพันธ์ของกลุ่มเป้าหมายและทำเลที่ตั้ง

ถ้าลองถามใครหลายๆ คนว่าปัจจัยหลักของการเปิดร้านกาแฟหรือคาเฟ่คืออะไร ก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง ทำเล ที่ต้องเดินทางสะดวก ใกล้กับระบบขนส่ง มีลานจอดรถ มีผู้คนเดินผ่านไปมา ฯลฯ องค์ประกอบเหล่านั้นเป็นสิ่งสำคัญก็จริง แต่ก็ทำให้เจ้าของธุรกิจหลายคนมองข้ามกลุ่มเป้าหมาย เพราะว่าในทำเลแต่ละแห่งนั้นมีกลุ่มลูกค้าที่ต่างกันไป ซึ่งจะส่งผลอย่างมากต่อโมเดลธุรกิจของร้านกาแฟ ยกตัวอย่างเช่น

  • ทำเลร้านกาแฟในย่านสำนักงาน

แน่นอนว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาอุดหนุนต้องเป็นกลุ่มคนวัยทำงาน-พนักงานออฟฟิศ มีลูกค้าเข้าออกจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงเช้าก่อนทำงานและช่วงพักกลางวัน ดังนั้นร้านกาแฟต้องสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่ว่า “อยากได้อร่อยๆ แบบเร็วๆ เพราะเดี๋ยวไปทำงานไม่ทัน” ซึ่งการเลือกเปิดร้านแบบ Speed Bar ใช้เครื่องชงกาแฟเอสเปรซโซ (Espresso Machine) ก็อาจตอบโจทย์นี้ได้ดี นอกจากนี้ เมนูของหวานหรือเบเกอรี่ก็เหมาะที่จะเป็นแบบชิ้นเล็กๆ อย่าง คุกกี้ ครัวซอง หรือแซนด์วิช ให้ลูกค้านำกลับไปกินที่โต๊ะทำงานได้ หรือหากเป็นคาเฟ่ ก็อาจจะต้องมี Co-Working Space และ Wi-Fi ให้ลูกค้าได้เข้ามาใช้บริการ

  • ทำเลร้านกาแฟในย่านสถานศึกษา

การตั้งร้านกาแฟในย่านที่มีสถานที่ศึกษาไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือศูนย์เรียนพิเศษ อาจจะเป็นโจทย์ที่ท้าทายขึ้นมาหน่อย เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียน นักศึกษา ที่จะแวะเข้ามาในร้านช่วงเช้าและช่วงเย็นหลังเลิกเรียน และมักมากับกลุ่มเพื่อน ซึ่งร้านกาแฟในย่านนี้ควรมีเมนูที่หลากหลาย เพราะกลุ่มนี้มักให้ความสนใจกับเมนูที่หลากหลายกว่า อาทิ โกโก้ปั่น ชาเขียวเย็น สมูตตี้ ช็อกโกแลตมินต์ เป็นต้น อีกทั้งควรเพิ่มขนมประเภท เค้ก พาย หรือไอศกรีมเข้าไปเมนูด้วย และถ้าสามารถเพิ่ม Co-Working Space, Meeting Room และบริการ Wi-Fi ก็รับรองว่าในช่วงสอบที่นักเรียนเข้ามาติวหนังสือหรือช่วงที่นักศึกษามีโปรเจกต์ จะช่วยเพิ่มรายได้ให้ร้านกาแฟแน่นอน

  • ทำเลร้านกาแฟในปั๊มน้ำมัน

ปั๊มน้ำมันก็มักจะมาพร้อมกับร้านสะดวกซื้อและร้านกาแฟอยู่เสมอ ซึ่งร้านกาแฟจะได้พบกับลูกค้าหลากหลายกลุ่ม แต่โดยส่วนใหญ่แล้วลูกค้าก็มักจะมีพฤติกรรมที่รีบซื้อรีบไป จะนั่งที่ร้านไม่นาน บางคนก็อาจจะแวะมาเติมน้ำมันเฉยๆ และต้องการซื้อกาแฟแบบเร็วๆ ดังนั้นทางร้านจำเป็นต้องทำกาแฟได้เร็ว มีเมนูให้เลือกชัดเจน อาจต้องการบาริสต้าที่มีประสบการณ์ หรือพนักงานที่กระฉับกระเฉง ในส่วนของขนมและของหวานก็ควรเป็นอะไรที่กินได้ง่ายและรวดเร็ว สามารถนำมาทานบนรถได้สะดวก เป็นต้น

ทั้งสามข้อข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างทำเลเท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าเจ้าของธุรกิจจะเปิดร้านที่ไหนก็จำเป็นต้องศึกษากลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ให้ดีเสียก่อน และต้องไม่ลืมที่จะเปิดให้บริการออนไลน์ผ่านเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายจากอีกหนึ่งช่องทางด้วย

2. ทำความรู้จักร้านกาแฟคู่แข่ง

ด้วยจำนวนธุรกิจกาแฟที่เพิ่มขึ้นทำให้เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงคู่แข่งได้ โดยเฉพาะร้านกาแฟ คาเฟ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กันหรือในละแวกใกล้เคียง ซึ่งเจ้าของธุรกิจก็ควรพิจารณาและวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งของคู่แข่ง เพื่อวางแผนการตลาดและการบริการให้ต่างกัน โดยมีปัจจัยที่ควรให้ความสนใจ ดังนี้

  • เมนูกาแฟของร้านคู่แข่ง – ทั้งเครื่องดื่มของร้าน ขนมและของหวานที่จำหน่าย Signature ของร้าน ถ้ามีโอกาสก็แนะนำให้ทดลองชิมด้วย
  • ราคาอยู่ในระดับใด ราคาอยู่ในระดับปานกลางหรือมีราคาสูง และราคาเหล่านี้เป็นการพุ่งเป้าไปยังกลุ่มลูกค้ากลุ่มใด
  • สไตล์การตกแต่งร้าน – ร้านกาแฟแต่ละแห่งจะมีคาแรกเตอร์เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งสะท้อนออกมาผ่านการตกแต่งของร้านทั้งภายในและภายนอก ซึ่งบรรยากาศของร้านก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเข้าร้าน
  • โปรโมชัน – ไม่ว่าจะเป็นโปรลด แลก แจก แถม และการสมัครสมาชิกสะสมแต้ม อีกทั้งต้องสังเกตด้วยว่าร้านคู่แข่งทำการตลาดด้านใดบ้าง ใช้กลยุทธ์แบบไหน แล้วร้านของเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้หรือเปล่า

สรุปง่ายๆ ว่า ถ้าเราทราบถึงสิ่งต่างๆ ที่คู่แข่งทำแล้ว ก็สามารถนำมาปรับใช้หรือประยุกต์เป็นไอเดียใหม่ๆ ให้กับร้านกาแฟ หรือคาเฟ่ได้นั่นเอง 

3. การเตรียมอุปกรณ์ร้านกาแฟ

ร้านกาแฟก็ต้องมาคู่กับเมล็ดกาแฟคัดสรรคุณภาพเยี่ยม เชื่อว่าเจ้าของธุรกิจคงทราบถึงเรื่องเมล็ดกาแฟดีกันอยู่แล้ว (อ่านเพิ่มเติมสายพันธุ์เมล็ดกาแฟต่างๆ) แต่อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องใส่ใจอย่างทั่วถึงคืออุปกรณ์ต่างๆ ในร้าน อาทิ เครื่องชงกาแฟเครื่องบดกาแฟ เครื่องปั่น ไปจนถึงอุปกรณ์เสริม อุปกรณ์ทำความสะอาด และบรรจุภัณฑ์ต่างๆ

4.  เรียนรู้และสร้างสูตรกาแฟ

สำหรับสูตรการชงกาแฟ เจ้าของธุรกิจกาแฟสามารถค้นหาสูตรเมนูทั่วไปเช่น อเมริกาโน คาปูชิโน ลาเต้ หรือมอคค่า ตามอินเทอร์เน็ตได้เลย จากนั้นค่อยนำมาปรับใช้กับวัตถุดิบที่เรามี เพื่อสร้างรสชาติที่แตกต่าง หรือจะเลือกสมัครเรียนสถาบันสอนทำกาแฟ ลงคอร์สเรียนวิธีการใช้เครื่องมือต่างๆ อย่างถูกวิธี รวมไปถึงรูปแบบการให้บริการ และเรื่องอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการเปิดร้าน หากโชคดีอาจจะได้พัฒนาสูตรลับพิเศษที่จะเป็นเมนู Signature ในอนาคตเลยก็เป็นได้

5. ศึกษาตลาดธุรกิจกาแฟอย่างรอบคอบ

การเริ่มต้นทำร้านกาแฟเพราะใจรักอาจไม่สามารถทำให้ร้านอยู่รอดได้ตลาดร้านกาแฟปัจจุบัน ดังนั้นเราจึงต้องทำความเข้าใจการตลาดร้านกาแฟก่อน โดยเริ่มจากการศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจ  วิเคราะห์ว่าร้านกาแฟเราขายให้ใคร ลูกค้าอยู่ที่ไหน และราคาเท่าไหร่ที่ลูกค้าพอใจที่จะจ่าย ค่าใช้จ่ายดำเนินการเท่าไหร่ เงินลงทุนที่มีตอนนี้พอไหม เป็นต้น

การคิดโดยตั้งสมมติฐานเป็นแนวทางที่ดีในการวางแผน จากนั้นค่อยหาข้อมูลมาสนับสนุนแนวคิดในการเริ่มต้นทำร้านกาแฟ คาเฟ่ เมื่อมองเห็นความเป็นไปได้ชัดเจน ให้ลองทำแผนธุรกิจดูก่อน เพราะการทำแผนธุรกิจเปรียบเสมือนการทดลองทำธุรกิจบนหน้ากระดาษก่อนลงทุนจริง ซึ่งจะช่วยให้เราเลือกใช้กลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจได้อย่างเหมาะสมเพื่อให้เกิดผลกำไรมากที่สุด ทั้งนี้แผนธุรกิจยังสามารถนำไปเสนอกับสถาบันทางการเงิน เพื่อขอทุนสนับสนุนหรือสินเชื่อธุรกิจได้อีกด้วย

พอได้ทราบถึงเรื่องสำคัญทั้งหมดนี้แล้ว เชื่อว่าเจ้าของธุรกิจกาแฟ ร้านกาแฟ คาเฟ่หน้าใหม่ต้องทำให้ร้านเติบโตและประสบความสำเร็จในอนาคตได้อย่างแน่นอน ส่วนเจ้าของธุรกิจท่านใดที่ต้องการซื้ออุปกรณ์ร้านกาแฟออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องทำกาแฟ วัตถุดิบ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ร้านกาแฟต้องการ Aroma ก็พร้อมให้บริการด้วยสินค้าร้านกาแฟครบวงจร

ช้อปสินค้ากาแฟคุณภาพพรีเมียมจาก Aroma ได้ที่ aromathailand.com 

WE ARE AROMA

Aroma Group คือผู้นำธุรกิจกาแฟคั่วบด และเครื่องดื่มแบบครบวงจร ที่มีความเชี่ยวชาญ และสั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี ธุรกิจของเราครอบคลุมตลอดต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การคัดสรรและจัดจำหน่ายวัตถุดิบชั้นดี การจำหน่ายเครื่องชงกาแฟ และอุปกรณ์คุณภาพสูง สถาบันสอนพัฒนาธุรกิจร้านกาแฟ รวมถึงธุรกิจร้านกาแฟ จวบจนวันนี้ Aroma Group ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากมายทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมชั้นนำ ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านเบเกอรี่ ทั้งจากตัวแทนจำหน่ายสินค้าของ Aroma กว่า 2,000 ราย ร้านค้าปลีกกว่า 7,000 ร้านค้า และ Aroma Shop กว่า 30 ร้าน พร้อมเสียงตอบรับที่มากขึ้นทุกวัน