ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับเชื้อ ไวรัสโควิด-19 ได้สร้างผล
กระทบอย่างมากมายหลายด้าน ในส่วนของภาคธุรกิจแทบทุกวงการก็ต้องประคับประคองกันให้อยู่รอด สำหรับในโลกของธุรกิจกาแฟต้องยอมรับว่าการเปิดร้านกาแฟได้รับผลกระทบมากที่สุดในช่วงแรก ด้วยมาตรการสั่งปิดร้านอาหาร ร้านกาแฟ และคาเฟ่ต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าวงการกาแฟก็ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะการบริโภคกาแฟของผู้คนก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง กลับกันยังพบว่ามีเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำไป ด้วยวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ ทำให้ผู้บริโภคต้องหันมาหากาแฟดื่มเองที่บ้าน นั่นทำให้การจำหน่ายเมล็ดกาแฟและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับกาแฟในครัวเรือนมีบทบาทสำคัญและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2022 นี้ถือเป็นช่วงรอยต่อสำคัญระหว่างการปรับตัวจากช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส
โควิด-19 มาสู่การใช้ชีวิตแบบปกติแม้จะยังไม่เต็มรูปแบบก็ตาม ซึ่งในมุมของโลกธุรกิจกาแฟก็น่าสนใจอย่างยิ่งว่า วัฒนธรรมการดื่มกาแฟจะสามารถกลับมาคึกคักได้เหมือนเดิมหรือไม่ และจะมีการปรับตัวไปในทิศทางไหนเพื่อตอบสนองต่อผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปได้มากที่สุด Aroma จึงได้รวบรวม 5 เทรนด์ในปีนี้ของธุรกิจกาแฟที่กำลังมาแรงแซงทุกโค้ง รวมถึง
เทรนด์ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างโดดเด่นมาให้คอกาแฟได้อัปเดตกัน
5 เทรนด์ธุรกิจกาแฟ ปี 2022 ตามให้ทัน ยังไงก็ปัง!

1. Specialty Coffee สู่การยกระดับคุณภาพขึ้นอีกขั้น
การสรรหารสชาติที่ดีที่สุดของกาแฟ เป็นสิ่งที่คอกาแฟให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ “กาแฟพิเศษ” หรือ “Specialty Coffee” จึงเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ในตอนนี้ระดับความพิเศษเพียงอย่างเดียว อาจจะยังไม่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้มากพอ ทำให้ในส่วนของผู้ผลิตเกิดความพยายามปรับตัวเพื่อแสวงหาและยกระดับความพิเศษขึ้นไปอีกระดับไปสู่ “คุณภาพระดับซูพีเรีย” หรือ “Superior Quality Coffee” กันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามการยกระดับคุณภาพกาแฟอาจไม่เพียงพอ ในปัจจุบันผู้บริโภคยังให้ความสำคัญต่อผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม โดยการใส่ใจกับกระบวนการผลิตกาแฟตั้งแต่การปลูก รวมถึงเรื่องราวที่ไม่ธรรมดาที่มาพร้อมรสชาติโดดเด่น จึงจะเป็นกาแฟที่สุดแสนพิเศษสำหรับพวกเขาได้จริงๆ อย่างกาแฟที่กำลังได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นในตอนนี้ที่เรียกว่า “กาแฟซิงเกิ้ล ออริจิ้น” ซึ่งเป็นกาแฟสายพันธุ์เดียวและจากแหล่งปลูกเดียวกัน จึงผลิตได้น้อยในแต่ละครั้ง จากแหล่งปลูกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ดังนั้นคำว่า “กาแฟพิเศษ” สำหรับตอนนี้ จะต้องมาพร้อมกับปัจจัยเสริมหรือเรื่องราวที่มากขึ้นไปอีกขั้นด้วย
2. กาแฟส่งถึงบ้านสำหรับสมาชิก Subscription มาแรง
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคในยุคโรคระบาดเช่นนี้คือ การต้องเก็บตัวอยู่ในบ้านเป็นส่วนใหญ่ การหันมาสู่การช้อปปิ้งออนไลน์จึงกลายเป็นทางเลือกหลัก ทำให้การใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ขึ้นมามีบทบาทสำคัญด้านธุรกิจ ผู้บริโภคเลือกใช้บริการส่งถึงบ้านเพราะความสะดวกสบาย โมเดลธุรกิจกาแฟแบบ Subscription หรือระบบ “สมัครสมาชิก” จึงเกิดขึ้นและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะแค่อยู่บ้านก็มีกาแฟคุณภาพดื่ม ขอแค่มีเครื่องชงดีๆ ก็ไม่ต้องเดินทางออกไปซื้อกาแฟไกลๆ ให้เสี่ยง ระบบแบบนี้จึงสะดวกมากต่อผู้บริโภค เพราะเป็นระบบที่เพียงแค่สมัครและจ่ายค่าสมาชิกเป็นรายเดือน สมาชิกก็จะได้รับกาแฟคุณภาพที่ถูกใจส่งตรงถึงหน้าบ้านเป็นประจำตามกำหนด ต้องบอกเลยว่าในสหรัฐอเมริกา เทรนด์นี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ส่วนในเอเชียหรือในบ้านเราประเทศไทย ยังมีไม่มากนัก แต่ด้วยความตอบโจทย์ด้านความสะดวกและการหันมาชงกาแฟเองที่บ้านมากขึ้น เทรนด์นี้ดูจะเป็นแนวโน้มธุรกิจกาแฟที่เติบโตขึ้นทั่วโลกต่อไปในอนาคตได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน
3. อุปกรณ์ชงกาแฟเองที่บ้าน เป็นที่ต้องการมากขึ้น
แม้สถานการณ์จะบังคับให้ต้องอยู่ในบ้านเป็นส่วนใหญ่ แต่คอกาแฟก็ยังต้องการดื่มกาแฟที่มีคุณภาพ ผ่านการชงอย่างพิถีพิถัน เพราะถือเป็นการเริ่มวันใหม่ที่ดีอย่างหนึ่งเลย เพียงแค่ได้ดื่มด่ำกาแฟหอมๆ ดีๆ สักแก้ว เหมือนกับได้ไปร้านกาแฟ คาเฟ่ร้านโปรดก็เพียงพอแล้ว การหันมาสร้างมุมกาแฟเล็กๆ ของตัวเองที่บ้านก็ดูจะตอบโจทย์ที่สุดในตอนนี้ อุปกรณ์ชงกาแฟอย่างเครื่องชงกาแฟ จึงเป็นที่สนใจและเป็นที่ต้องการมากขึ้น นั่นทำให้ตลาดอุปกรณ์ร้านกาแฟหรือที่เกี่ยวกับการชงกาแฟ เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครื่องชงกาแฟสำหรับใช้ในบ้านหรือสำนักงาน และแม้จะมีอุปกรณ์ชงกาแฟออกมาหลากหลายรูปแบบ แต่ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้คือ อุปกรณ์ชง “กาแฟดริป” เพราะนอกจากความต้องการรสชาติที่ดีของผู้บริโภคแล้ว การดื่มด่ำกับกระบวนการชง ก็เป็นอีกสิ่งที่คอกาแฟเพลิดเพลิน จนทำให้สำหรับบางคน การชงกาแฟด้วยตัวเอง ถือเป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่งเลยทีเดียว
4. กาแฟพร้อมดื่ม ยังคงยืนหนึ่ง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในโลกของธุรกิจกาแฟ “Ready-To-Drink Coffee” หรือ “กาแฟพร้อมดื่ม” เป็นตลาดที่ยังคงพื้นที่อัตราการเติบโตที่สูงอยู่แล้ว และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ จากปัจจัยการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เป็นอยู่นี้เอง ด้วยจุดเด่นของกาแฟพร้อมดื่มที่หาซื้อได้สะดวกสบายสอดคล้องกับวิถีชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นตามร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ซูเปอร์มาร์เก็ต ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ คาเฟ่ทั่วไป หรือแม้แต่เว็บไซต์ค้าปลีกออนไลน์ จึงสามารถตอบโจทย์ในช่วงเวลาที่ผู้คนเข้าร้านกาแฟไม่ได้ รวมไปถึงมีการพัฒนาเครื่องดื่มให้ดึงดูดผู้บริโภคได้อยู่ตลอด ตอนนี้กาแฟพร้อมดื่มที่กำลังได้รับความนิยม ได้แก่ กาแฟสกัดเย็น (Cold Brew) ที่มีการนำมาบรรจุขวดขายอย่างแพร่หลาย และกาแฟไนโตร (Nitro Coffee) แบบกระป๋องที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน
5. เปิดประสบการณ์สัมผัสไร่กาแฟถึงแหล่งปลูก
ตั้งแต่ในช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 นั้น การท่องเที่ยวเชิงเกษตร หรือ Agro-Tourism เริ่มเป็นที่สนใจและได้รับความนิยมมากขึ้น การเปิดไร่กาแฟเพื่อส่งเสริมและผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ รวมทั้งการเก็บเกี่ยว การแปรรูป และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไร่ ก็ถือเป็นอีกมิติของธุรกิจกาแฟที่น่าจับตามองทิศทางและแนวโน้มกันต่อไปอย่างมาก ทำนองเดียวกับกระแสการเปิดไร่องุ่น ชมกระบวนการผลิตไวน์ ที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามนั่นเอง การเปิดไร่กาแฟนั้น ยังถือว่าสอดคล้องกับกระแสการบริโภคกาแฟพิเศษมากทีเดียว เพราะเป็นสิ่งที่คอกาแฟจะได้สัมผัสกับกระบวนการผลิตในต้นทางได้ด้วยตัวเอง เรียกได้ว่าจะได้รับประสบการณ์ตรงที่น่าตื่นตาไม่ใช่น้อย ซึ่งการเปิดไร่กาแฟนั้น ในหลายประเทศได้มีการเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างจริงจังแล้ว ส่วนในบ้านเราก็มีอยู่หลายแห่งเช่นกัน เชื่อว่าหลังจากนี้ หากสถานการณ์ดีขึ้น การท่องเที่ยวสัมผัสไร่กาแฟก็จะกลับมาคึกคัก และเป็นที่ตั้งตาของชาวกาแฟอย่างแน่นอน

จะเห็นได้ว่าแม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาดมากแค่ไหน แต่สำหรับธุรกิจกาแฟทั่วโลก ก็ยังคงเติบโตและไปต่อได้ในหลายๆ มิติ และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปในอนาคต เพราะการดื่มกาแฟได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต หรือเรียกได้ว่ากลายเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมสากลเลยก็ว่าได้ และที่กล่าวมานี้ก็เป็นทั้ง 5 เทรนด์ธุรกิจกาแฟที่หมุนไปตามการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างลงตัว ทำให้ธุรกิจกาแฟสามารถไปต่อและเติบโตขึ้นแบบสวนกระแส หวังว่าการรวบรวมข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการทุกท่านให้ได้อัปเดตและลองนำไปปรับกลยุทธ์กันดูได้ และอย่าลืมนึกถึง Aroma เพราะเราพร้อมอยู่เคียงข้างให้บริการเกี่ยวกับสิ่งที่ธุรกิจกาแฟต้องการอย่างครบครันและครอบคลุมที่สุด
WE ARE AROMA
Aroma Group คือผู้นำธุรกิจกาแฟคั่วบด และเครื่องดื่มแบบครบวงจร ที่มีความเชี่ยวชาญ และสั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี ธุรกิจของเราครอบคลุมตลอดต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การคัดสรรและจัดจำหน่ายวัตถุดิบชั้นดี การจำหน่ายเครื่องชงกาแฟ และอุปกรณ์คุณภาพสูง สถาบันสอนพัฒนาธุรกิจร้านกาแฟ รวมถึงธุรกิจร้านกาแฟ จวบจนวันนี้ Aroma Group ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากมายทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมชั้นนำ ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านเบเกอรี่ ทั้งจากตัวแทนจำหน่ายสินค้าของ Aroma กว่า 2,000 ราย ร้านค้าปลีกกว่า 7,000 ร้านค้า และ Aroma Shop กว่า 30 ร้าน พร้อมเสียงตอบรับที่มากขึ้นทุกวัน
อ้างอิง: