ท่ามกลางผลิตภัณฑ์เมล็ดกาแฟนับร้อยที่ถูกวางจำหน่าย ผู้บริโภคหรือเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟจะมีวิธีการเลือกสรรอย่างไรให้ได้พบกับ ‘ผลิตภัณฑ์เมล็ดกาแฟ’ ที่ใช่ที่สุด มาศึกษา 3 วิธีการเลือกเมล็ดกาแฟกับ Aroma กันเลยในบทความนี้
1.พิจารณาสายพันธุ์กาแฟ
กาแฟมีอยู่ด้วยกันหลายสายพันธุ์ แต่ที่นิยมนำมาบริโภคที่สุดมีอยู่เพียง 4 สายพันธุ์เท่านั้น ได้แก่ พันธุ์อราบิก้า (Arabica), พันธุ์โรบัสต้า (Robusta), พันธุ์เอ็กซ์เซลซ่า (Excelsa) และพันธุ์ลิเบอริก้า (Liberica)
โดยใน 4 สายพันธุ์นี้ สองสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายมากที่สุด คือ ‘อราบิก้า’ และ ‘โรบัสต้า’ ส่วนเอ็กซ์เซลซ่าและลิเบอริก้านั้นมักจะนิยมเฉพาะในบางพื้นที่ท้องถิ่น
ในการเลือกสรรผลิตภัณฑ์เมล็ดกาแฟ ส่วนใหญ่เราจึงพบเพียงแค่ ‘อราบิก้า’ และ ‘โรบัสต้า’ ซึ่งมีจุดแตกต่างสำคัญคือลักษณะเมล็ดและรสชาติ
ลักษณะของเมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าจะกลมมนและมีเส้นตรงกลางตรง ส่วนสายพันธ์อราบิก้า จะมีลักษณะเมล็ดรูปทรวงรีและมีเส้นตรงกลางคด คล้ายตัว ‘S’ ในภาษาอังกฤษ
ในด้านรสชาติ ด้วยระดับคาเฟอีน (2-4.5%) และระดับหนานุ่มของรสสัมผัส (body) ที่ค่อนข้างสูง โรบัสต้าจึงให้รสชาติที่ค่อนข้างเข้มและรสสัมผัสหนาแน่นกว่า และด้วยระดับน้ำตาลและระดับกรดที่ต่ำ รสจึงจะค่อนข้างออกฝาดกว่าเล็กน้อย ส่วนอราบิก้าที่มีระดับคาเฟอีน (1.1-1.7%) และระดับหนานุ่มของรสสัมผัสค่อนข้างต่ำ (1.1-1.7%) รสชาติโดยรวมจึงค่อนข้างเข้มข้นต่ำกว่าโรบัสต้า แต่ให้ความกลมกล่อมสูงและรสเปรี้ยวที่ซับซ้อนกว่า
ทั้งนี้ ในการทำกาแฟสด ไม่ได้แปลว่าต้องใช้เฉพาะเมล็ดสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่ง แต่สามารถผสมผสาน เช่น ในสัดส่วนอย่างละครึ่ง ตามความชอบหรือสูตรเฉพาะของผู้ดื่ม หรือถ้าใครไม่อยากซื้อแยก ยังสามารถเลือกซื้อในรูปแบบ ‘Blend’ คือมีเมล็ดอราบิก้าและโรบัสต้าผสมผสานมาเลยใน 1 บรรจุภัณฑ์ เช่น AROMA DOUBLE MOCCA BLEND ที่ผสมผสานระหว่างอราบิก้าและโรบัสต้า ระดับการคั่วกลาง-เข้ม เหมาะสำหรับทำเมนูร้อนและเมนูเย็น รสเข้มกลมกล่อม
2. พิจารณาระดับการคั่ว
ระดับการคั่ว (Roast Level) ของเมล็ดกาแฟมีผลต่อรสชาติโดยรวมเช่นกัน โดยในปัจจุบัน ได้มีการแบ่งมาตรฐานของระดับการคั่ว ดังนี้
1) ระดับคั่วอ่อน (Light Roast)
- เมล็ดกาแฟมีสีน้ำตาลอ่อน คล้ายสีของ Cinnamon หรืออบเชย
- ระดับการคั่วอ่อนช่วยคงคุณสมบัติดั้งเดิมของกาแฟและรส
- เปรี้ยว สดชื่นและรสฝาดสูง
- เหมาะกับการทำกาแฟร้อน
2) ระดับคั่วกลาง (Medium Roast)
- เมล็ดกาแฟมีสีน้ำตาลเข้มปานกลาง
- ระดับการคั่วกลางให้รสชาติขมปนหวานและเปรี้ยวเล็กน้อย
- เริ่มมีกลิ่นหอมของกาแฟคั่ว
- เหมาะกับการทำกาแฟร้อนและเย็น
3) ระดับคั่วเข้ม (Dark Roast)
- เมล็ดกาแฟมีสีน้ำตาลเข้ม
- ระดับคั่วเข้มให้รสชาติขมปนหวานคล้ายดาร์กช็อกโกแลต
- แทบไม่มีรสเปรี้ยวหลงเหลือ และให้กลิ่นหอมกาแฟคั่ว
- เหมาะเป็นพิเศษสำหรับการทำกาแฟเย็นที่ต้องการรสชาติเข้ม
- ข้นหรือต้องการระดับเนื้อสัมผัสของกาแฟ (body) สูง
3. พิจารณาแหล่งกำเนิด
นอกเหนือจากสายพันธุ์และระดับการคั่ว ผู้เลือกยังควรพิจารณาแหล่งกำเนิดของเมล็ดกาแฟเสมอ เนื่องจากสภาพแวดล้อมการปลูกของแต่ละแห่งจะมีผลต่อรสชาติโดยรวมของเมล็ดกาแฟเช่นกัน หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า ‘ปัจจัยแตร์รัว’ (Terrior) ที่หมายถึงสภาพภูมิอากาศ, ดิน, ความลาดชัน, และทุกสรรพสิ่งในสภาพแวดล้อมการปลูกที่จะส่งผลต่อลักษณะรสชาติของเมล็ดกาแฟ ทำให้แม้จะเป็นสายพันธุ์เดียวกัน แต่หากถูกปลูกในคนละแหล่งกำเนิด ก็สามารถมีรสชาติที่แตกต่างกันได้ โดยในปัจจุบัน เรายังมีการแบ่งประเภทรูปแบบผลิตภัณฑ์เมล็ดกาแฟตามจำนวนแหล่งกำเนิด ดังนี้
1. แหล่งเพาะปลูกเดียว (Single Origin) หมายถึง เมล็ดกาแฟจากแหล่งเพาะปลูกเดียว เช่น AROMA SINGLE ORIGIN MEXICO OAXACA 100% กาแฟอราบิกาแท้ 100% ที่ปลูกในประเทศเม็กซิโกเพียงแหล่งเดียว (Single Origin) ให้รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของผลไม้เลมอน, แอปเปิ้ล และคาราเมล
2.แหล่งเพาะปลูกผสม (Blend) หมายถึง เมล็ดกาแฟจาก 2 แหล่งเพาะปลูกขึ้นไป
ค้นหาวัตถุดิบที่คุณต้องการจากอโรม่า: วัตถุดิบร้านกาแฟ, เครื่องบดกาแฟ, เครื่องชงกาแฟ
WE ARE AROMA
Aroma Group คือผู้นำธุรกิจกาแฟคั่วบด และเครื่องดื่มแบบครบวงจร ที่มีความเชี่ยวชาญ และสั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี ธุรกิจของเราครอบคลุมตลอดต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การคัดสรรและจัดจำหน่ายวัตถุดิบชั้นดี การจำหน่ายเครื่องชงกาแฟ และอุปกรณ์คุณภาพสูง สถาบันสอนพัฒนาธุรกิจร้านกาแฟ รวมถึงธุรกิจร้านกาแฟ จวบจนวันนี้ Aroma Group ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากมายทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมชั้นนำ ร้านอาหาร ซูปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านเบเกอรี่ ทั้งจากตัวแทนจำหน่ายสินค้าของ Aroma กว่า 2,000 ราย ร้านค้าปลีกกว่า 7,000 ร้านค้า และ Aroma Shop กว่า 30 ร้าน พร้อมเสียงตอบรับที่มากขึ้นทุกวัน